พินิจศักดิ์ เร่งรัดให้ตอบกลับภายใน 20 พ.ย.60 ก่อนเสนอเข้าที่ประชุม ก.ค.ศ.ปลายเดือนนี้
ตามที่ น.ส.วนาลี ทุนมาก และ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี ผู้สอบแข่งขันได้ในสาขาวิชาเอกสังคมศึกษา ลำดับที่ 66 และ 67 ตามลำดับของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สมพ.) เขต 38 (สุโขทัย-ตาก) เดินทางมาร้องทุกข์ต่อตนในฐานะเลขาธิการ ก.ค.ศ.เพื่อขอเข้ารับราชการตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม จ.ตาก หลังจากสอนได้ 5 เดือน แต่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) ตาก ไม่อนุมัติการบรรจุแต่งตั้ง เพราะสพม.เขต 38 เรียกผู้สอบแข่งขันได้ในสาขาวิชาเอกสังคมศึกษามาบรรจุ 2 ตำแหน่ง ซึ่งไม่ตรงกับสาขาวิชาเอกคณิตศาสตร์ที่ได้รับอนุมัติแค่ 1 ตำแหน่งและบัญชีเลยกำหนด 2 ปีในวันที่ 10 พ.ค.60 นั้น
ล่าสุดวันที่ 16 พ.ย.60 นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือถึง 4 หน่วยงาน คือ สพม.38, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุโขทัย เขต 2, กศจ.สุโขทัย และ กศจ.ตาก เพื่อขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในการสอบบรรจุ และแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย และสอบถามว่า การบรรจุแต่งตั้งเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือไม่ เพราะตามหลักเกณฑ์การบรรจุต้องเป็นไปตามลำดับที่ ตามจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละกลุ่มวิชา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยขอข้อมูลดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยวาจา แต่อาจเป็นเพราะยังไม่มีใครมาร้องทุกข์กับ ก.ค.ศ. จึงยังไม่มีใครส่งข้อมูลมาให้ ดังนั้นเมื่อครู 2คน มาร้องทุกข์ จึงทำหนังสือขออย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อนำเสนอข้อมูลให้คณะกรรมการ ก.ค.ศ.พิจารณา โดยขอให้ทั้ง 4หน่วยงาน เร่งตอบกลับมาภายในวันที่ 20 พ.ย.60 เพื่อเสนอเข้าที่ประชุม ก.ค.ศ.ปลายเดือนนี้
“โดยหลักการเมื่อมีผู้ร้องทุกข์มา ก.ค.ศ.ก็ต้องตรวจสอบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนดหรือไม่ และถ้าพบว่า หน่วยงานไม่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และผู้ที่เกี่ยวข้องมีสิทธิ์ ก็ควรได้รับการดูแล เช่น ถ้าข้อเท็จจริง ระบุว่า ครู 2คน ถึงลำดับที่ต้องเรียกบรรจุตามหลักเกณฑ์ ก็จะต้องเสนอ ก.ค.ศ.บรรจุ โดยอาจเสนอให้ดำเนินการคัดเลือกบรรจุเป็นกรณีพิเศษ แต่ถ้าเช็คมาแล้วไม่ถึงลำดับที่ ก็คงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ไม่เช่นนั้นผู้ที่ขึ้นบัญชีก่อนหน้าครูทั้ง 2คน อาจจะมีปัญหาเกิดความยุ่งยากอีกได้” นายพินิจศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ กศจ.สุโขทัย เรียกบรรจุลำดับที่ 18 ของบัญชีรวมของ กศจ.สุโขทัย ข้ามลำดับที่ 16 และ 17 ไป ซึ่งเป็นลำดับที่ของน.ส.วนาลี ทุนมาก และ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญ ตามลำดับนั้น
นายพินิจศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่โดยหลักบัญชี กศจ.อาจมีการเรียกข้ามได้ เพราะมีบัญชีเขตพื้นที่ฯ ด้วย แต่การเรียกทั้งหมดจะเรียกข้ามไม่ได้ เช่น สพม.38 ในหลักเกณฑ์ต้องใช้บัญชีคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่ฯ เดิมก่อน ซึ่งเท่าที่ทราบข้อมูลมีทั้งหมด70คน และมีการเรียกบรรจุไปบ้างแล้ว หลังจากมี กศจ.หลักเกณฑ์กำหนดให้ผู้ที่อยู่ในบัญชีสามารถเลือกขึ้นบัญชี กศจ.สุโขทัย หรือ กศจ.ตากได้ โดยไม่เสียสิทธิ์ในบัญชี สพม.38
ซึ่งการเรียกบัญชี ถ้า อ.ก.ค.ศ.เขตฯ เดิมมีบัญชีอยู่ ให้ดำเนินการเรียกบัญชีของ อ.ก.ค.ศ.เขตฯนั้นก่อน
ดังนั้น ถ้าสพม.38จะเรียกบรรจุผู้สอบแข่งขันได้ไม่ว่าจะปฏิบัติงานที่จังหวัดตาก หรือสุโขทัย การเรียกบรรจุต้องเรียกจากบัญชีของ สพม.38 ก่อน ส่วนที่มีข้อสงสัย ว่ามีการเรียกบรรจุข้ามลำดับของครูทั้ง 2คน ก็ต้องรอข้อมูล เพราะโดยหลักการ กศจ.สุโขทัย จะต้องถามไปยัง สพม.38ว่า ลำดับก่อนหน้าได้บรรจุไปแล้วหรือยัง ซึ่งตรงนี้เป็นขั้นตอนที่ตนสอบถามอยู่ และโดยหลักการแม้ กศจ.สุโขทัย จะรู้ข้อเท็จจริงต้องได้รับรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ลำดับก่อนหน้าได้รับการบรรจุแล้ว หรือสละสิทธิ์แล้วหรือไม่
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก สยามรัฐออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2560