ที่ประชุมสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตวัดการสอน-คุณธรรม จริยธรรม เพื่อขอตั๋วครูทำไม่ได้เพราะไม่มีเครื่องมือวัดที่น่าเชื่อถือและเที่ยงตรง แถมเสียเงินเปล่า หนุนวัดความรู้อย่างเดียว
วันนี้( 15 พ.ย.) ดร.ดิเรก พรสีมา ประธานคณบดีคณะครุศาสตร์กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย(ส.ค.ศ.ท.) เมื่อเร็ว ๆนี้ ได้มีการเชิญตัวแทนจากคุรุสภามาเสนอแนวทางการดำเนินการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งทางคุรุสภาได้ชี้แจงว่าจะมีการทดสอบ 3 แบบคือแบบที่1. แบบทดสอบวัดความรู้ โดยจะทดสอบวัดความรู้ใน 11 มาตรฐานความรู้ตามที่คุรุสภากำหนดได้แก่ 1.ความเป็นครู 2.ภาษาและวัฒนธรรม 3.การประกันคุณภาพการศึกษา 4.คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ 5.หลักสูตร 6.ปรัชญาการศึกษา 7.จิตวิทยาสำหรับครู 8.การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน 9.การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ 10.การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และ11.นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา แบบที่ 2.แบบทดสอบวัดคุณลักษณะที่อิงสมรรถนะความสามารถในการปฎิงาน โดยประเมินวิธีการปฏิบัติของผู้เรียน และแบบที่ 3.แบบทดสอบวัดทักษะ หรือวัดคุณธรรมจริยธรรม โดยประเมินการเรียนการสอนของผู้เรียน
ดร.ดิเรก กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมส.ค.ศ.ท.ได้หารือเรื่องดังกล่าวและเห็นว่าการทดสอบแบบที่ 1การสอบวัดความรู้นั้นสามารถทำได้ โดยการใช้สอบข้อเขียน ส่วนการทดสอบแบบที่ 2และแบบที่ 3นั้นทางที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตว่าจะวัดได้อย่างไร การวัดจะมีความน่าเชื่อถือและเที่ยงตรงมากแค่ไหน ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีเครื่องมืออะไรที่จะนำมาวัดได้ เช่น ถ้าจะวัดคุณลักษณะที่อิงสมรรถนะด้วยการให้อัดคลิปการสอนแล้วส่งให้ดูก็ไม่รู้ว่ามีใครทำแผนการสอนให้หรือไม่ ใครเขียนคลิป ใครซ้อมบทให้ ส่วนการวัดเรื่องการมีคุณธรรม จริยธรรมหรือไม่นั้นก็ไม่มีเครื่องที่จะวัดกันได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตามที่ประชุมไม่ติดใจการวัดแบบที่ 1 แต่แบบที่ 2และแบบที่3 นั้นที่ประชุมไม่มีข้อสรุป แต่เห็นว่าจะทำให้เสียเงินเปล่า และเด็กที่จบครูในแต่ละปีเป็นหมื่นคนจะมาวัดคงไม่ได้ ทั้งนี้หากต้องการให้เด็กมีสมรรถนะในการสอนหรือมีคุณธรรมจริยธรรมจริง ๆควรที่จะไปบ่มเพาะกันในช่วงที่เรียนครูตั้งแต่ปี1จนถึงปี5จะได้ผลกว่า
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2560 เวลา 15.54 น.