2 ครูสาวไม่ได้รับการบรรจุครูวุ่น “เลขา ก.ค.ศ.” เผยผลขอตรวจสอบพบมีผู้ขึ้นบัญชีก่อนหน้าครูทั้ง 2 คนอีกกว่า 20 คน ซึ่งต้องได้รับการบรรจุก่อนครูทั้ง 2 คน หรือต้องมีตำแหน่งว่างกว่า 25 อัตรา ด้าน “รมว.ศธ.” แย้มเรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากล และมีความซับซ้อนในการดำเนินการ แต่ยืนยัน 2 ครูต้องได้รับการเยียวยา ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น.ส.วนาลี ทุนมาก และ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี ที่สอบบรรจุเป็นข้าราชการครู ในตำแหน่งครูผู้ช่วย และได้รับการเรียกตัวไปปฏิบัติหน้าที่ใน รร.อุ้มผางวิทยาคม อ.อุ้มผาง จ.ตากแล้ว แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับการอนุมัติให้บรรจุเป็นข้าราชการหลังจากไปสอนได้ 5 เดือน ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาฯ ก.ค.ศ.) เพื่อขอความเป็นธรรม และยังจะให้ข้อมูลเพิ่มที่ สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดย น.ส.นิราวัลย์กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะรอผลการพิจารณาของ ก.ค.ศ. หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะไปยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครองต่อไป
นายพินิจศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำชับให้ดูแลครูทั้ง 2 คนให้ได้กลับเข้ารับราชการ แต่การดูแลก็ต้องตรวจสอบข้อมูล กระบวนการและขั้นตอนดำเนินการที่ผ่านมาว่าถูกต้องหรือไม่ หากขั้นตอนถูกต้องก็ต้องคงสิทธิ์ให้กับครูทั้ง 2 คน ซึ่งเท่าที่ได้ข้อมูลเบื้องต้น ครู 2 คนไม่มีส่วนรู้เห็น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของระบบราชการ ซึ่งจากการอ่านรายงานการประชุมของ กศจ.ตาก และ กศจ.สุโขทัย พบว่าเขตพื้นที่มีการรายงานข้อมูลไม่ตรงกัน พบว่ามีผู้ขึ้นบัญชีก่อนหน้าครูทั้ง 2 คน กว่า 20 คน จึงต้องไปไล่เรียงว่าผู้ขึ้นบัญชีทั้งกว่า 20 คน มีการบรรจุที่ไหนหรือมีใครสละสิทธิ์บ้าง เพราะถ้าหากจะบรรจุทั้งหมดก่อนมาถึงครูทั้ง 2 คน ก็ต้องมีตำแหน่งว่างกว่า 25 อัตรา ทั้งนี้ ตนจะเร่งสรุปข้อมูลเพื่อให้ทันนำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ.ปลายเดือน พ.ย.นี้
"แนวโน้มครู 2 คน จะได้กลับเข้ารับราชการหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ ผมก็ไม่ทราบว่าคณะกรรมการ ก.ค.ศ.จะมีความเห็นอย่างไร และยังมีประเด็นเรื่องการออกบัตรประจำตัวข้าราชการให้ครูทั้ง 2 คน ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. ทั้งที่ยังไม่มีคำสั่งบรรจุแต่งตั้งก็เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบด้วย" นายพินิจศักดิ์กล่าว
ด้าน นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า ตนยืนยันว่าครูทั้ง 2 คน จะต้องได้รับการเยียวยาให้บรรจุเป็นข้าราชการ แต่จะดำเนินการด้วยวิธีการใดนั้น ต้องศึกษารายละเอียดทางข้อกฎหมายก่อน เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของครู เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากภาครัฐ แม้จะมีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ครูทั้ง 2 คนอาจเข้าไปเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากล แต่ตนก็ยังตั้งสมมติฐานในเบื้องต้นว่าครูไม่ผิด และถึงแม้จะมีมูลว่าครูเข้าไปเกี่ยวข้อง ฝ่ายรัฐก็ยังมีความผิดอยู่ดี เพราะปล่อยให้บุคคลอื่นเข้ามาใช้วิธีการแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้ ตนได้รับรายงานเบื้องต้นว่าเรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น และมีความซับซ้อนในการดำเนินการ ซึ่งตนก็ตั้งข้อสังเกตเหมือนกับที่หลายคนสงสัยเช่นกันว่า เหตุใดเขตพื้นที่ถึงพยายามดึงดันที่จะบรรจุครูทั้ง 2 คนให้ได้ โดยที่ กศจ.ไม่ได้อนุมัติให้บรรจุ จึงเท่ากับว่าเรื่องนี้ต้องมีความไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน ซึ่งตนได้กำชับไปยัง สพฐ.และสำนักงานปลัด ศธ.ให้สอบสวนและรายงานโดยเร็วที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) อ้างว่ารู้ปัญหาว่า รร.ใดขาดแคลนครู จึงต้องการให้มีการบรรจุครู นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของ สพท.ที่จะไปบรรจุครูโดยพลการ ทุกอย่างต้องทำตามกฎระเบียบและบรรจุตามอัตราสาขาวิชาที่ว่างและได้ประกาศไว้เท่านั้น ซึ่ง สพท.จะไปเปลี่ยนแปลงการบรรจุไม่ได้ และขอยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน
ด้าน นายวัลลพ สงวนนาม ผอ.สพร. กล่าวว่า คกก.ชุดที่ทำหน้าที่ดูแล กม.ได้ลงพื้นที่ เพื่อรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ รวมทั้งขอข้อมูลจากครูทั้ง 2 คนด้วย หากคืบหน้าจะสรุปและรายงานให้นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาฯ กพฐ. รับทราบต่อไป.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2560