ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ไทยพร้อมเป็นต้นแบบการศึกษา “มอนเทสซอริ” ของอาเซียน


ข่าวการศึกษา 13 พ.ย. 2560 เวลา 09:15 น. เปิดอ่าน : 9,764 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

ไทยพร้อมเป็นต้นแบบการศึกษา “มอนเทสซอริ” ของอาเซียน

ไทยพร้อมเป็นต้นแบบการศึกษา “มอนเทสซอริ” ของอาเซียน
เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุม “มอนเทสซอริ” ประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

1 พฤศจิกายน 2560 - ประเทศไทยเตรียมพร้อมเดินหน้าเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมการศึกษามอนเทสซอริสากล ด้วยศักยภาพของครูไทยและนักเรียนที่ผ่านแนวทางมอนเทสซอริ ทำให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของอาเซียน เพื่อขยายผลไปสู่ภูมิภาค ด้วยความสนับสนุนเต็มรูปแบบจากรัฐบาล

นางสาวเมแกน ไทน์ ผู้จัดการโครงการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ International Montessori Congress ปี 2564 สมาคมมอนเทสซอริสากล กล่าวว่า “มอนเทสซอริคือรูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลางได้ ถูกนำมาใช้ในประเทศไทยเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา และได้เติบโตอย่างเข้มแข็งในแวดวงการศึกษา ทั้งในเชิงคุณภาพ และปริมาณ โดยปัจจุบันมีครูไทยจากโรงเรียนรัฐบาลที่ผ่านการอบรมหลักสูตรของมอนเทสซอริในประเทศไทย มากกว่า 500 โรงเรียน รวมทั้งสมาชิกของมอนเทสซอริแบบบุคคลซึ่งอยูในโรงเรียนเอกชนอีกมากกว่า 100 คน

ล่าสุดประเทศไทยได้รับเกียรติจากสมาคมมอนเทสซอริสากล (Association of Montessori Internationale หรือ AMI) ให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมการศึกษามอนเทสซอริในปี 2564 ซึ่งนับเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ โดยการประชุมครั้งแรกในโลกของมอนเทสซอริจัดขึ้นเมื่อปี 2542 และเคยจัดในเอเซียเพียงครั้งเดียวที่ ประเทศญี่ปุ่น ทาง AMI เลือกประเทศไทยด้วยปัจจัยในด้านการความเติบโตและความเข้มแข็งของมอนเทสซอริ ภายในประเทศ เพราะมีการนำแนวทางของมอนเทสซอริมาใช้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเกิดผลผลสำเร็จ AMI มองเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางและต้นแบบการศึกษารูปแบบมอนเทสซอริของภูมิภาคนี้ ทั้งยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่อมโยงและขยายแนวคิดการศึกษามอนเทสซอริไปยังประเทศอื่นในอาเซียน และเอเชีย แปซิฟิค รวมถึงประเทศจีนได้อีกด้วย”

ทั้งนี้การศึกษารูปแบบมอนเทสซอริได้พิสูจน์มาแล้วทั่วโลกว่าเป็นรูปแบบที่เหมาะกับพัฒนาการของเด็กและใช้ได้ กับเด็กทุกคน เนื่องจากหลักการของมอนเทสซอริมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถนำมาใช้ได้แม้ในพื้นที่ที่มี ความแตกต่างทางภาษา สังคม และวัฒนธรรม ความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมทำให้การศึกษา มอนเทสซอริตอบโจทย์การศึกษาได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลักสูตรการเรียนการสอนมอนเทสซอริริเริ่มขึ้นเมื่อ 110 ปี ที่แล้ว โดยดร.มาเรีย มอนเทสซอริ แพทย์หญิงชาวอิตาเลียน ผู้ที่ในขณะนั้นได้มีโอกาสทำงานกับเด็กเล็กและนำ แนวทางการศึกษาที่ให้เด็กเป็นศูนย์กลางมาใช้ ด้วยความเชื่อที่ว่าการให้การศึกษาแก่เด็กไม่ใช่เป็นนำความรู้ไปให้ แก่เด็ก แต่เป็นการจัดการศึกษาให้สัมพันธ์กับความสามารถและความต้องการตามธรรมชาติของเด็กแต่ละคน โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับผู้เรียน

นางสาวเมแกน กล่าวต่อว่า “แนวการศึกษามอนเทสซอริสามารถใช้ได้กับเด็กทุกกลุ่มทุกวัยตั้งแต่ประถมถึงมัธยม โดยแบ่งออกเป็นช่วงๆ ได้แก่เด็กแรกเกิดถึง 3 ปี, 3-6 ปี, 6-12 ปี, และ 12-18 ปี โดยรูปแบบการเรียนการสอนจะ เน้นสร้างให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เด็กทำระหว่างการเรียนมีความสอดคล้องกับความต้องการของเด็ก และที่สำคัญคือ การสร้างแรงจูงใจให้เด็กใฝ่รู้ และสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมได้ โดยช่วงปีแรกของเด็ก เป็นพื้นฐานสำคัญของอนาคต เริ่มจากการพัฒนาด้านภาษา การเคลื่อนไหวร่างกาย หลังจากนั้นก็จะเน้นเรื่องของ วัฒนธรรม เป้าหมายหลักของมอนเทสซอริคือการช่วยให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเองและมองเห็นว่าการกระทำ ของตัวเองสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ มอนเทสซอริไม่ได้เน้นเรื่องความเป็นเลิศทางวิชาการ แต่เน้นการเชื่อมโยง ร่างกาย จิตใจ และสมอง โดยเรียนรู้ผ่านการเคลื่อนไหวของตัวเด็ก แนวทางของมอนเทสซอริประยุกต์ใช้ได้กับ เด็กทุกกลุ่ม เพราะเป็นวิธีการที่ยืดหยุ่น จึงได้รับการยอมรับจากโรงเรียนเอกชนชั้นนำทั่วโลก ไปจนถึงค่ายผู้อพยพ”

“AMI ได้นำมอนเทสซอริไปประยุกต์ใช้กับโครงการสำหรับชนกลุ่มน้อย กลุ่มคนที่อยู่พื้นที่ห่างไกลจากเมือง กลุ่มผู้ ด้อยโอกาสต่างๆ ซึ่งทางสมาคมฯ เชื่อว่าสิ่งที่สมาคมฯ ปลูกฝังให้กับเด็กในวันนี้จะสามารถสร้างผู้นำในอนาคตได้ ประเทศไทยเองก็จะเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบที่มีการนำมอนเทสซอริไปใช้ด้วยความร่วมมือของรัฐบาลไทย AMI มีมุ่งที่จะผลักดันให้มอนเทสซอริสามารถเข้าถึงเด็กทุกคน และวิธีทางเดียวที่จะทำให้สำเร็จได้ก็คือการทำงาน ร่วมกับรัฐบาล เพราะรัฐเป็นผู้ให้บริการด้านการศึกษาของประเทศ ความสัมพันธ์กับรัฐบาลไทยจึงมีส่วนสำคัญใน การพัฒนาการศึกษาระบบมอนเทสซอริให้เติบโตโตและยั่งยืน”

นางกรรณิการ์ บัต นักการศึกษาจากสมาคมมอนเทสซอริแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเรียนการสอนแนว มอนเทสซอริเกิดขึ้นในประเทศไทยมาเป็นเวลา 12 ปี โดย ดร.กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรม การการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นผู้นำมอนเทสซอริเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนมากถึง 2 ใน 3 ของประเทศ ซึ่งไม่สามารถใช้ระบบการศึกษาแบบปกติได้ เนื่องจากจำนวนครูไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน ดร.กษมาเชื่อในหลักการว่ามอนเทสซอริสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ ซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลไทยได้สนับสนุนและ ให้ทุนในการศึกษาแก่ครูไทยในการอบรมศึกษาหลักสูตรมอนเทสซอริจากผู้เชี่ยวชาญของ AMI โดยครูไทยที่ผ่าน การอบรมจะสามารถเรียนรู้เพิ่มพูนประสบการณ์เป็นผู้ให้การอบรมแก่ครูในประเทศและในภูมิภาค ปัจจุบันครูไทย ที่ผ่านการศึกษามอนเทสซอริในประเทศไทยมีมากกว่า 600 คน จากโรงเรียนรัฐบาล 500 โรงเรียน และยังมีสมาชิก ทั่วไปซึ่งเป็นบุคลากรจากโรงเรียนในประเทศไทย นอกจากโรงเรียนภายใต้สังกัดรัฐบาลและเอกชน รวมทั้งโรงเรียน ทางเลือกต่างๆ มอนเทสซอริยังสามารถปรับใช้ได้กับเด็กกลุ่มอื่นๆ ทั้งกลุ่มเด็กด้อยโอกาสและผู้ที่อยู่พื้นที่ห่างไกล”

“งานประชุมมอนเทสซอริสากลที่ประเทศไทยจในปี 2564 ช่วยตอกย้ำยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญและ ให้การสนับสนุนการศึกษามอนเทสซอริ และนโยบาย Education 4.0 รวมทั้งช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Education Hub ของภูมิภาค การประชุมครั้งนี้ นอกจากจะเปิดโอกาสให้นักการศึกษาและผู้ที่อยู่ในแวดวงการ ศึกษาเข้าร่วมแล้ว ยังต้องการให้กลุ่มผู้ดูแลผู้สูงวัย และผู้ที่อยู่ในแวดวงการกีฬาได้เข้าร่วมรับความรู้อีกด้วย งานครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การประชุมที่ให้ทุกคนมาพบกัน แต่เรามุ่งหวังว่างานนี้จะช่วยสร้างความเติบโตของ มอนเทสซอริในอาเซียนและในโลกให้มีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นอีกด้วย” นางกรรณิการ์ กล่าว
 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก cwprpedia@gmail.com

 

คำบรรยายภาพ

ไทยพร้อมเป็นต้นแบบการศึกษา “มอนเทสซอริ” ของอาเซียนไทยพร้อมเป็นต้นแบบการศึกษา“มอนเทสซอริ”ของอาเซียน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567

เปิดอ่าน 4,768 ☕ 8 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 506 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 678 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 770 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,373 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 2,059 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 953 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ชาผลไม้...บำรุงร่างกาย สูตรทำเองได้...ง่ายๆ
ชาผลไม้...บำรุงร่างกาย สูตรทำเองได้...ง่ายๆ
เปิดอ่าน 17,092 ครั้ง

1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
เปิดอ่าน 19,052 ครั้ง

ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ
เปิดอ่าน 9,018 ครั้ง

ศิลปะการเห่เรือ
ศิลปะการเห่เรือ
เปิดอ่าน 34,478 ครั้ง

ยาจำพวกซัลฟา
ยาจำพวกซัลฟา
เปิดอ่าน 51,135 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ