ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

รร.เมืองกระบี่ ใช้ Active Learning ด้วยบันได 7 ขั้น สู่การเป็นต้นแบบ รร.สิ่งแวดล้อมศึกษา


งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคม 7 พ.ย. 2560 เวลา 19:19 น. เปิดอ่าน : 6,346 ครั้ง
รร.เมืองกระบี่ ใช้ Active Learning ด้วยบันได 7 ขั้น สู่การเป็นต้นแบบ รร.สิ่งแวดล้อมศึกษา

Advertisement

วันนี้ปริมาณขยะที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ตระหนักถึงวิกฤติของปัญหาดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในภาพรวม นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงมีนโยบายให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังวินัยบริหารจัดการขยะ และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่นักเรียน ให้เกิดเป็นจิตสำนึก เป็นการขับเคลื่อนประเทศไทยไร้ขยะโดยเริ่มต้นจากโรงเรียน

โรงเรียนเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ นับเป็นโรงเรียนตัวอย่างของการเป็นโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา ที่เกิดจากความพร้อมเพรียงและความร่วมมือของทุกคน ตั้งแต่ผู้บริหาร ครู นักเรียน บุคลากรทุกคน รวมถึงชุมชน ท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามแนวทางสิ่งแวดล้อมศึกษา ที่สำคัญทุกคนมีส่วนร่วมในการลงมือปฏิบัติอย่างแท้จริง

โดย นายวสันต์ ปัญญา ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองกระบี่ กล่าวว่า เนื่องจากโรงเรียนเมืองกระบี่เป็นโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน(Eco-school) มีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาที่จะให้ความรู้ ให้ทักษะ ประสบการณ์ แก่เด็กเยาวชน การจัดการทุกอย่างของโรงเรียนเมืองกระบี่ จึงเป็นการทำเพื่อสร้างพลเมืองสิ่งแวดล้อมรุ่นใหม่ให้แก่ประเทศไทยและโลก เพื่อให้นักเรียนมีวินัยที่จะร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งการจะมีวินัยที่ยังยืนได้ ต้องมีกระบวนการขับเคลื่อนให้เด็ก ๆ ได้ฝึกฝน ได้ปฏิบัติ เป็นเรื่องของกระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ หรือ Active Learning โดยเริ่มจากการทำหลักสูตรที่เกิดจากครูทุกคนลงไปศึกษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนรอบบ้านตัวเอง และรอบโรงเรียน แล้วกลับมาร่างหลักสูตรสิ่งแวดล้อมศึกษา จากนั้นนำไปสู่การออกแบบการสอนและกิจกรรมเพื่อนำไปฝึกฝนนักเรียนให้มีวินัยที่ยั่งยืน แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้นักเรียนต้องมีส่วนร่วมในการคิด ปฏิบัติและประเมินผลด้วย

จากแผนการเรียนรู้ไปสู่การความสำเร็จได้นั้น โรงเรียนมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันทั้งโรงเรียน คือ 1 ห้องเรียน 1 ฐานการเรียนรู้ หมายความว่าโรงเรียนเมืองกระบี่มี  51 ฐานการเรียนรู้ จาก 51 ห้องเรียน โดยครูและนักเรียนทุกห้องจะมีพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองบนพื้นที่ 34 ไร่ที่โรงเรียนมี โดยใช้กระบวนการสิ่งแวดล้อมศึกษา  7 ขั้นตอนในการจัดกิจกรรม เพราะฉะนั้นนักเรียนโรงเรียนเมืองกระบี่ทุกคนจะมีส่วนร่วมในการคิดตั้งแต่เริ่มต้นโดยการศึกษาปัญหา วิเคราะห์แก้ปัญหา ทดลองตามกระบวนการจนประสบความสำเร็จและนำกลับไปสู่สังคม

“อย่างกรณีปัญหาน้ำเสียในชุมชน ซึ่งเด็กๆ ได้ลงเก็บข้อมูลจนพบว่า เนื่องจากเมืองกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว ทุกสิ่งอย่างต้องเป็นเรื่องที่ต้องทำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว น้ำธรรมชาติต้องสะอาด แต่ชุมชนของโรงเรียนมีคลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการผลิตน้ำประปาให้แก่ชาวเมืองกระบี่ แต่สิ่งที่เป็นไป คือ น้ำเสียจากบ้านเรือน โรงงาน และโรงเรียน จะไหลลงสู่คลองแห่งนี้ เด็กๆ จึงนำข้อมูลกลับมาจำลองสังคมในโรงเรียนให้เป็นเมืองจำลอง ว่าจะจัดการกับปัญหานั้นอย่างไร โดยเด็กๆ ค้นพบว่าน้ำเสียจากโรงเรียนส่วนหนึ่งมาจากโรงอาหาร ที่ยังไม่มีการคัดแยกขยะ มีเศษอาหาร มีไขมัน มีหลอดน้ำดื่ม ที่ไหลออกมาจนทำให้ท่อเกิดอุดตัน ซึ่งหากปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไปน้ำที่ไหลลงสู่คลองกระบี่ใหญ่ก็จะไม่มีวันใสสะอาดขึ้นมาได้ เด็กๆ จึงได้มีโครงการอย่างน้อย 2 -3 ฐาน คือ ห้องหนึ่งคิดเรื่องการดักจับไขมัน ขณะที่อีกห้องคิดเรื่องการบำบัดน้ำเสีย และอีกห้องก็นำหลอดมาล้างแล้วประดิษฐ์เป็นไส้หมอนอิง เป็นต้น” ผอ.วสันต์ย้ำ

ขณะที่ ครูอมรทัต เอียดศรีชาย ครูสอนสิ่งแวดล้อมศึกษามิติวิทยาศาสตร์ เล่าถึงการจัดการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมศึกษา โดยใช้บันได 7 ขั้น โดยเริ่มต้นจากการสำรวจเพื่อหาประเด็นเรียนรู้ ด้วยการวิเคราะห์ระบบนิเวศน์เพื่อดูว่าพื้นที่นี้มีลักษณะภูมินิเวศน์อย่างไร ขั้นที่ 2 เป็นความรู้ฐานซึ่งนักเรียนต้องไปค้นหาว่าความรู้ของประเด็นเรียนรู้คืออะไร ซึ่งส่วนมากจะหาได้จากปราชญ์ท้องถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือการสืบค้นข้อมูลจากหนังสือหรืออินเตอร์เน็ต ขั้นที่ 3 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชื่อมโยง เป็นการวิเคราะห์เพื่อหาความสัมพันธ์ว่าหากยังดำเนินชีวิตอย่างนี้ต่อไปจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อสิ่งแวดล้อม ขั้นที่ 4 นำไปสู่การเรียนรู้สถานการณ์ จากนั้นไปสู่ขั้นที่ 5 การวางแผน นักเรียนจะได้ฝึกออกแบบการวางแผนเพื่อแก้ปัญหาโดยใช้ประเด็นเรียนรู้และความรู้ที่มีที่ผ่านการวิเคราะห์ที่กำหนดทางเลือกไว้แล้ว ขั้นที่ 6 เป็นการลงมือปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ และขั้นที่ 7 การนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปเผยแพร่ให้แก่สังคม เพื่อนโรงเรียนอื่นๆ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน

ด้าน ครูอรนุช แก้ววิเศษ ครูสอนสิ่งแวดล้อมศึกษา มิติสังคม กล่าวถึงการนำหลอดน้ำดื่มมาทำเป็นไส้หมอนว่า โรงเรียนมีฐานการเรียนรู้ธนาคารขยะ แต่ความสำเร็จของธนาคารขยะไม่ใช่ทำอย่างไรให้ได้เงินจำนวนมาก แต่เป็นเรื่องของการลดปริมาณขยะและนำขยะมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดมากกว่า เช่น การที่นักเรียน ม.3/2 ที่เป็นเจ้าของฐานนวัตกรรมต่อยอดหลอดเป็นหมอน เป็นโครงงานที่เด็กคิดขึ้นเพราะพบว่าแต่ละวันมีปริมาณของหลอดที่ถูกทิ้งเป็นจำนวนมาก อย่างที่โรงเรียนมีนักเรียน 1,700 คน แต่ละคนหากดื่มน้ำเพียงวันละขวดก็จะมีหลอดถูกทิ้งวันละ 1,700 หลอดเป็นอย่างน้อย และส่งผลทำให้ท่อน้ำทิ้งอุดตัน นักเรียนจึงนำปัญหานี้เข้าสู่กระบวนการบันได 7 ขั้น พบงานวิจัยว่า หลอดมีคุณสมบัติยืนหยุ่นได้ ไม่จับฝุ่น ซักล้างได้ จึงทำการคัดแยกหลอดแล้วนำไปล้าง ตัด เพื่อทำเป็นไส้หมอนทั้งหมอนหนุน หมอนอิง โดยมีการออกแบบเพื่อความสวยงามและสะดวกในการใช้งาน เมื่อนำไปทดลองให้ผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุใช้ ปรากฏว่าได้ผลดี สามารถลดปัญหาแผลกดทับได้ และหมอนยังมีความยืดหยุ่นและระบายอาการได้ดีด้วย โดยขณะนี้เด็ก ได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการบันไดขั้นที่ 7 แล้ว นั่นคือการขยายผลสู่ชุมชน ซึ่งกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นนี้ เด็กๆ ยังสามารถนำไปต่อยอดสู่การเป็นอาชีพในอนาคตได้อีกด้วย

นายพรปรีดา คงอ่อน ประธานชุมชนคู่เมือง บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีมากที่โรงเรียนจัดกิจกรรมนำเด็กๆ ออกมาเรียนรู้นอกห้องเรียน อย่างการให้เด็กมาศึกษาสภาพของป่าชายเลน ทำให้เด็กได้รับรู้ว่า ทำไมต้องจริงจังกับเรื่องการอนุรักษ์ป่าชายเลน จนทำให้เด็กเกิดความตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ฉะนั้น การที่เด็กออกมาเรียนรู้มากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดี ซึ่งผมเห็นด้วย 100% ว่าต้องเอาเด็กรุ่นนี้มาปลูกฝัง เพราะถ้าเป็นคนสูงวัยจะช้าเกินไป แต่เด็กนักเรียนยังเป็นวัยกำลังเรียน ยังมีแรงที่จะช่วยพัฒนาและต่อยอด จนเกิดเป็นอุปนิสัยได้ ทำให้เกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ และเอาใจใส่ที่จะดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อส่วนรวม

และนี่คือ อีกหนึ่งตัวอย่างการขับเคลื่อนเพื่อปลูกจิตสำนึกความมีวินัย การจัดการขยะ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ให้ติดตัวเด็กไปตลอดแม้จะพ้นจากโรงเรียนไปแล้ว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก nutthaya.good@gmail.com

คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ
คำบรรยายภาพ

รร.เมืองกระบี่ ใช้ Active Learning ด้วยบันได 7 ขั้น สู่การเป็นต้นแบบ รร.สิ่งแวดล้อมศึกษารร.เมืองกระบี่ใช้ActiveLearningด้วยบันได7ขั้นสู่การเป็นต้นแบบรร.สิ่งแวดล้อมศึกษา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ลุ้นสนุกเชียร์สนั่น ALTV QUIZ CHALLENGE ปีที่ 3 รอบรอง-ชิงชนะเลิศ ธ.ค.65 นี้

ลุ้นสนุกเชียร์สนั่น ALTV QUIZ CHALLENGE ปีที่ 3 รอบรอง-ชิงชนะเลิศ ธ.ค.65 นี้

เปิดอ่าน 1,753 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
"แลคตาซอย" ชวนประกวดคลิปวิดีโอ ย้อนความหลัง "โตมากับแลคตาซอย" ชิงรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท
"แลคตาซอย" ชวนประกวดคลิปวิดีโอ ย้อนความหลัง "โตมากับแลคตาซอย" ชิงรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท
เปิดอ่าน 177 ☕ คลิกอ่านเลย

เทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง เตรียมเปิดสาขารถไฟฟ้าและหุ่นยนต์ นำศูนย์บ่มเพาะรองรับตลาด EEC
เทคนิคนิคมอุตสาหกรรมระยอง เตรียมเปิดสาขารถไฟฟ้าและหุ่นยนต์ นำศูนย์บ่มเพาะรองรับตลาด EEC
เปิดอ่าน 173 ☕ คลิกอ่านเลย

พี่น้องชาว 38 ค (2) สพป.มุกดาหาร แต่งชุดดำแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์โหวตโน ไม่ร่วมประชาพิจารณ์ กรอบอัตรากำลัง ที่ขาดเสถียรภาพในความก้าวหน้าวิชาชีพ
พี่น้องชาว 38 ค (2) สพป.มุกดาหาร แต่งชุดดำแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์โหวตโน ไม่ร่วมประชาพิจารณ์ กรอบอัตรากำลัง ที่ขาดเสถียรภาพในความก้าวหน้าวิชาชีพ
เปิดอ่าน 1,447 ☕ คลิกอ่านเลย

รร.บ้านกำพี้เหล่ากาเจริญศิลป์ ใช้จินตคณิต สร้างเครือข่าย นำโรงเรียนขนาดเล็กปรับตัวเพื่ออยู่รอด
รร.บ้านกำพี้เหล่ากาเจริญศิลป์ ใช้จินตคณิต สร้างเครือข่าย นำโรงเรียนขนาดเล็กปรับตัวเพื่ออยู่รอด
เปิดอ่าน 833 ☕ คลิกอ่านเลย

"สุรวาท" ยื่น 3 ร่างกฎหมายยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ด้านการศึกษา
"สุรวาท" ยื่น 3 ร่างกฎหมายยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ด้านการศึกษา
เปิดอ่าน 4,008 ☕ คลิกอ่านเลย

สสวท. อบรมครูวิทย์โรงเรียน ตชด. และโรงเรียนพระปริยัติธรรม เน้นทักษะเชื่อมโยงจัดการเรียนรู้ตามบริบทท้องถิ่น
สสวท. อบรมครูวิทย์โรงเรียน ตชด. และโรงเรียนพระปริยัติธรรม เน้นทักษะเชื่อมโยงจัดการเรียนรู้ตามบริบทท้องถิ่น
เปิดอ่าน 773 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
เปิดอ่าน 4,295 ครั้ง

เที่ยวท่องสองฝั่งโขง อุบลฯ-ปากเซ
เที่ยวท่องสองฝั่งโขง อุบลฯ-ปากเซ
เปิดอ่าน 11,350 ครั้ง

โรคของเส้นผม ขน และเล็บ
โรคของเส้นผม ขน และเล็บ
เปิดอ่าน 20,029 ครั้ง

ทำไม? คนเราถึงไม่ซื่อสัตย์
ทำไม? คนเราถึงไม่ซื่อสัตย์
เปิดอ่าน 16,064 ครั้ง

ชม MV เพลง "ชีวิตยังคงสวยงาม" ของ บอดี้แสลม เชียร์นักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย
ชม MV เพลง "ชีวิตยังคงสวยงาม" ของ บอดี้แสลม เชียร์นักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย
เปิดอ่าน 14,338 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ