ยันยึดขนาดสถานศึกษาส่งผลต่อคุณภาพ ส.บ.ม.ท.วอนขอความชัดเจน
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) พร้อมตัวแทนเข้ายื่นหนังสือถึง รมว.ศึกษาธิการ ขอรับทราบแนวทางของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ถึงการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองอุบลราชธานี โดยนายรัชชัยย์กล่าวว่า ตามที่เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองอุบลราชธานีได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับ หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ข้อที่ 10 และ 11 ตามหนังสือด่วนที่สุดที่ ศธ.0206.4/ว24 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งพิพากษา และสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้มีหนังสือแจ้งเวียนถึงสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ให้ชะลอการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ที่ยื่นคำร้องขอย้ายระหว่างวันที่ 1-15 ส.ค.2560 ไว้เป็นการชั่วคราวก่อน จนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งทุเลาดังกล่าว
นายกสมาคม ส.บ.ม.ท. กล่าวอีกว่า ส.บ.ม.ท.เห็นว่าศาลมิได้มีคำสั่งยกเลิกเพิกถอนมติหรือคำสั่งของสำนักงาน ศธจ.ที่ได้มีมติและสั่งการไปแล้วแต่ ศธจ.ยังมิได้มีคำสั่งแต่งตั้ง และศาลยังมีความเห็นไว้ในคำสั่งว่าหากศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามกฎที่พิพากษา ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานของรัฐ เนื่องจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษาตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ.0206.4/ว9 ลงวันที่ 29 ก.ค.2554 ส.บ.ม.ท.จึงขอให้ รมว.ศึกษาธิการวินิจฉัยสั่งการว่าคำสั่งศาลปกครองดังกล่าวผูกพันผู้บริหารสถานศึกษารายอื่นๆหรือไม่, ผู้บริหารสถานศึกษารายใดได้รับคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายแล้วแต่ยังไม่ได้เดินทางจะดำเนินการอย่างไร, กศจ.ที่พิจารณาย้ายไปแล้วและเดินทางรับหน้าที่ใหม่แล้วจะทำอย่างไร, กศจ.ที่ยังไม่พิจารณาจะต้องทำตามหลักเกณฑ์ ว24 หรือ ว9 เป็นต้น
ด้านนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ.วันที่ 30 ต.ค.นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.จะแจ้งให้บอร์ดทราบถึงคำสั่ง โดยจะมีการอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง 2 กรณีคือ การยกเลิกคำสั่งทุเลา และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการพิจารณาย้ายตามขนาดของสถานศึกษาว่าจะมีผลดีต่อคุณภาพการศึกษาอย่างไร.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 25 ตุลาคม 2560