ปิโก ผนึกพันธมิตรด้านการศึกษา เปิดงาน EDUCA 2017
หนุนครูไทยพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมปั้นเด็กรับมืออนาคต
ชูแนวคิด “Education 1.0, 2.0, 3.0, 4.0 : จากนโยบายสู่ห้องเรียน”
ปิโก (ไทยแลนด์) จับมือ พันธมิตรด้านการศึกษาไทย-ต่างประเทศ เปิดงาน EDUCA 2017 หรือ มหกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ครั้งที่ 10 หวังสร้างครูไทยพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมช่วยเด็กไทยเติบโต รับมือความเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต ชูแนวคิด “Education 1.0 , 2.0 , 3.0 , 4.0 : From Policy to Classroom” ดึงวิทยากรจากประเทศชั้นนำด้านการศึกษาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ Workshop กว่า 150 หัวข้อ การประชุมเชิงปฏิบัติการนานาชาติ และไฮไลต์ใหม่พื้นที่แสดงเทคโนโลยี-สตาร์ทอัพด้านการศึกษา
งานมหกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู หรือ EDUCA จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงประมาณเดือนตุลาคม มีจุดมุ่งหมายหลักคือการเป็นพื้นที่และเวทีกลาง (Platform) ช่วยพัฒนาวิชาชีพครูอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน โดยมีวิทยากรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และมีผู้ร่วมงานแต่ละปีกว่า 5 หมื่นคน
นายศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดงาน EDUCA กล่าวว่า ครู ถือ เป็นกลไกขับเคลื่อนคุณภาพที่สำคัญที่สุดในระบบการศึกษา การพัฒนาคุณภาพครูส่งผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งการพัฒนาครูให้เกิดประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องอาศัยความต่อเนื่อง บริษัทจึงได้จัดงาน EDUCA หรือมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู เพื่อเป็นเวทีการเรียนรู้และพัฒนาวิชาชีพครูอย่างต่อเนื่องทุกปี
“การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงคาดหวังว่างาน EDUCA ของเราจะมีส่วนช่วยเป็นพื้นที่ให้ครูได้มีโอกาสพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเป็นแกนสำคัญช่วยให้เด็กไทยเติบโตไป พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต” นายศีลชัย กล่าว
การจัดงานในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 10 ในชื่อ EDUCA 2017 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Education 1.0 , 2.0 , 3.0 , 4.0 : From Policy to Classroom : จากนโยบายสู่ห้องเรียน” ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2560 ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม (ฮอลล์ 9) เมืองทองธานี มีหน่วยงานรัฐและสถาบันการศึกษาชั้นนำร่วมเป็นเจ้าภาพ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษาไทย (สวทศ.) ฯลฯ
แนวคิดการจัดงานในปีนี้ มีที่มาจากการตระหนักถึงความสำคัญในการผลักดันนโยบายการศึกษาเข้าสู่ห้องเรียนว่าเป็นกระบวนการที่ยากลำบาก นานาประเทศไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ต่างก็มีปัญหาด้านการผลักดันนโยบายสู่ห้องเรียนไม่ต่างกัน ในขณะเดียวกันก็มีหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินการ บริษัทจึงได้นำแนวทางของประเทศชั้นนำด้านการศึกษามาเป็นตัวอย่างในการประชุมนานาชาติ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนด้านการนำนโยบายไปสู่ห้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
“ปีนี้ เราได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการและสถานเอกอัครราชทูตของประเทศชั้นนำด้านการศึกษา เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟินแลนด์ สิงคโปร์ ร่วมส่งวิทยากรจัดหัวข้ออบรมที่สอดคล้องกับสถานการณ์การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ซึ่งน่าจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเป็นแนวทางที่ดีในการยกระดับการศึกษาไทย” นายศีลชัย กล่าว
กิจกรรมภายในงานปีนี้ ประกอบด้วย การประชุมนานาชาติ (International Conference) การเสวนาพิเศษ “ทิศบ้านทางเมืองครุศึกษา” (Teacher Education Symposium) การสัมมนาพิเศษ (Special Seminar) ฟอรั่มครูใหญ่ (Principal Forum) รวมถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) อีกกว่า 150 หัวข้อ โดยหลักสูตรของงาน EDUCA ปีนี้ ได้ผ่านเกณฑ์การรับรองหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูของ สพฐ. จากสถาบันคุรุพัฒนา ด้วย
สำหรับไฮไลต์สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือการให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากในการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกมิติ จึงได้เปิดพื้นที่ให้ EdWINGS ซึ่งเป็นกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) ด้านการศึกษา เข้ามาดูแลบริหารพื้นที่กว่า 400 ตร.ม. โดยจะมีการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่น่าสนใจจากสตาร์ทอัพในพื้นที่ดังกล่าว คาดว่าจะเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนนโยบาย Education 4.0 และ Thailand 4.0
ศ.ดร.อารี สัณหฉวี ครูต้นแบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในฐานะประธานในพิธีเปิด กล่าวว่า การศึกษาไทยยังคงต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “ครู” ที่ก็ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ด้วยเพราะเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้รับการพัฒนาแล้วนั้นสู่เด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติ
“ดิฉันในฐานะที่อยู่ในวิชาชีพครูมาตั้งแต่เรียนจบก็ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตนเอง เพราะตระหนักดีว่าโลกของเรามีองค์ความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา งานมหกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครูหรือ EDUCA ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่ครูจะได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองอย่างรอบด้าน ได้เปิดโลกกว้างเพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาวิชาชีพ และช่วยพัฒนาเยาวชนของชาติให้กลายเป็นกำลังสำคัญและเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในวันข้างหน้าต่อไป” ศ.ดร.อารี กล่าว
ขอบคุณที่มาข่าวจาก ratchanee@agatethai.com