กกอ.เห็นชอบแนวทางแบ่งส่วนราชการ แต่ต้องเป็นหน่วยงานภายในก่อน 3ปี ขออัตรากำลังไม่ได้ และผลประเมินดี ถึงจะได้งบฯ ส่วนมทร.ตะวันออกกำลังสรรหาอธิการบดีคนใหม่
วันนี้( 16 ต.ค.) ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ါเมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุม กกอ.ได้มีมติเห็นชอบเรื่องการกำหนดแนวทางการพิจารณาการแบ่งส่วนราชการของมหาวิทยาลัยรัฐ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ว่า หากมหาวิทยาลัยรัฐ จะจัดตั้งหน่วยงานใหม่ที่ขอรับงบประมาณแผ่นดินได้ ต้องตั้งเป็นหน่วยงานภายในก่อนอย่างน้อย 3 ปี และได้รับการประเมินจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) โดยมีผลการประเมินไม่ต่ำกว่าระดับดีติดต่อกัน3ปี ถึงจะได้รับการพิจารณาให้เป็นหน่วยงานที่อยู่ในโครงสร้างตามกฎหมายได้ ที่สำคัญการจัดตั้งเป็นหน่วยงานดังกล่าวต้องใช้วิธีการเกลี่ยหรือตัดอัตรากำลังบุคลากรจากที่มีอยู่ภายในมหาวิทยาลัย จะไม่สามารถขออัตรากำลังใหม่ได้ ดังนั้นการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ ต้องมีความจำเป็นเท่านั้น
ดร.สุภัทร กล่าวต่อไปว่า แนวปฏิบัติดังกล่าวใช้สำหรับมหาวิทยาลัยของรัฐ แต่หากมหาวิทยาลัยเอกชนจะนำไปปฏิบัติก็สามารถทำได้ ทั้งนี้เชื่อว่าถ้า สกอ.ออกประกาศหลักเกณฑ์ดังกล่าวและมีผลบังคับใช้ จะทำให้มหาวิทยาลัยคำนึงถึงเรื่องการจัดตั้งหน่วยงานใหม่มากขึ้น เนื่องจากจะกระทบต่อรายได้ของมหาวิทยาลัย เพราะในช่วง 3 ปีจะไม่สามารถของบประมาณแผ่นดินมาบริหารจัดการได้ อีกทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องอัตรากำลังที่ไม่สามารถขอเพิ่มได้ แต่ต้องใช้วิธีการเกลี่ยหรือตัดอัตรา ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบถึงหน่วยงานอื่นๆของมหาวิทยาลัย
“ กกอ.ยังรับทราบผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย จำนวน 4 แห่ง ที่ถูกควบคุมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฎ(มรภ.)สุรินทร์ และมรภ.ชัยภูมิ โดย มทร.ตะวันออกอยู่ระหว่างสรรหาอธิการบดีคนใหม่ ส่วนอีก 3 มหาวิทยาลัย ได้มีการรายงงานว่า การจัดการคุณภาพการศึกษาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “ดร.สุภัทร กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2560 เวลา 10.00 น.