เพิ่มปฐมวัย-ขยับโอเน็ต-ลด นร.ออกกลางคัน บูรณาการทุกหน่วยสู่เป้า
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) จัดประชุม “แนวทางการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาของหน่วยงานที่สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579 มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองเลขาธิการ สกศ. กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมว่า การจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2579 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 โดยต้องจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน แผนพัฒนาการศึกษาอาชีวศึกษา และแผนพัฒนาการศึกษาอุดมศึกษา ซึ่งจะนำไปสู่แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดและแผนบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาค ทั้งนี้ แผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมคือ มีการกำหนด 5 เป้าหมาย ได้แก่ 1.การเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา อาทิ สัดส่วนนักเรียนปฐมวัย 3-5 ขวบ ต้องเพิ่มขึ้น 90% 2.ความเท่าเทียมทางการศึกษา อาทิ ผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคนได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายการศึกษา
15 ปีเต็ม 100% 3.คุณภาพการศึกษา อาทิ นักเรียนมีคะแนนโอเน็ตแต่ละวิชาร้อยละ 50 ขึ้นไป 50% 4.ประสิทธิภาพ อาทิ อัตราเด็กออกกลางคันลดลงและ 5.การตอบโจทย์บริบทที่มีการเปลี่ยนแปลง อาทิ อัตราการมีงานทำภายใน1ปีของผู้จบอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้น 80% และผู้จบอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 75%
“ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ส่งผลให้การจัดการศึกษาต้องเปลี่ยนแปลงไม่สามารถจัดรูปแบบเดิมๆได้ แต่ต้องบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยยึดประโยชน์สูงสุดอยู่ที่ประชาชน ซึ่งขณะนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งแผนการศึกษาแห่งชาติให้ทุกหน่วยงานทราบแล้ว ดังนั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายแผนทุกหน่วยงานที่ต้องจัดทำแผนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าว”
ดร.ชัยยศกล่าวและว่า ตนขอฝาก 9 Step ของการขับเคลื่อนแผนสู่การปฏิบัติคือ ต้องจัดลำดับความสำคัญของตัวชี้วัดแต่ละเป้าหมายที่ทำเพื่อส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงการศึกษาที่รับผิดชอบ กำหนดวิธีทำงานและสร้างทีมผู้รับผิดชอบ แสดง Best Practice จัดสรรทรัพยากรและงบประมาณเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย จัด Public Feedback จัดทำ Road Map สู่ความเป็นจริง มีหน่วยขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ มีการสื่อสารให้สังคมรับรู้ และนำไปสู่การสรุปบทเรียน.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 7 ตุลาคม 2560