ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

อึ้ง!! คะแนน "วิทยาศาสตร์" นร.ไทยต่ำกว่าทุกประเทศเอเชีย ยกเว้นอินโดฯ เกือบครึ่งไม่รู้วิทย์พื้นฐาน


ข่าวการศึกษา 3 ต.ค. 2560 เวลา 19:12 น. เปิดอ่าน : 25,850 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

อึ้ง!! คะแนน "วิทยาศาสตร์" นร.ไทยต่ำกว่าทุกประเทศเอเชีย ยกเว้นอินโดฯ เกือบครึ่งไม่รู้วิทย์พื้นฐาน

ผลประเมิน PISA 2015 "วิชาวิทยาศาสตร์" นร.ไทยรั้งท้ายเอเชีย คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและต่ำกว่าทุกประเทศยกเว้นอินโดนีเซีย พบเกือบครึ่งหนึ่งยังรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ไม่ถึงระดับพื้นฐาน พบเป็นกลุ่ม ร.ร.สังกัดท้องถิ่น กทม. อาชีวะ ขณะที่กลุ่มท็อปฟอร์มมีเพียง 0.5% จาก ร.ร.เน้นสอนวิทย์ ด้าน ร.ร.สาธิตได้ระดับปานกลาง และ ร.ร.สพฐ.แค่ระดับพื้นฐาน

ดร.พรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า สสวท.ได้จัดทำเว็บไซต์เกี่ยวกับโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (PISA) คือ PISA Thailand และได้มีการวิเคราะห์ประเด็นต่างๆ จากการประเมินผล PISA หรือ “FOCUS ประเด็นจาก PISA” โดยล่าสุดได้วิเคราะห์หัวข้อ "วิทยาศาสตร์ของนักเรียนไทยกับนักเรียนในภูมิภาคเอเชีย" พบว่า ใน PISA 2015 วิชาวิทยาศาสตร์มีค่าเฉลี่ย OECD เป็นคะแนนมาตรฐานที่ 493 คะแนน โดยกลุ่มที่มีคะแนนเฉลี่ยวิทยาศาสตร์สูงกว่าค่าเฉลี่ย OECD ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ จีนไทเป มาเก๊า เวียดนาม ฮ่องกง และจีนสี่มณฑล ส่วนกลุ่มที่มีคะแนนเฉลี่ยวิทยาศาสตร์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD ได้แก่ ไทย และอินโดนีเซีย โดยไทยมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าอินโดนีเซียทุกวิชา

"ประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่มีคะแนนเฉลี่ยวิทยาศาสตร์อยู่ในกลุ่มบนสุดสิบอันดับแรก (Top 10) ได้แก่ 1.สิงคโปร์ 556 คะแนน 2.ญี่ปุ่น 538 คะแนน 3.เอสโตเนีย 534 คะแนน 4.จีนไทเป 532 คะแนน 5.ฟินแลนด์ 531 คะแนน 6.มาเก๊า 529 คะแนน 7.แคนาดา 528 คะแนน 8.เวียดนาม 525 คะแนน 9.ฮ่องกง 523 คะแนน และ 10.จีนสี่มณฑล 518 คะแนน ซึ่งจะเห็นได้ว่าในบรรดากลุ่มบนสุดสิบอันดับแรกนี้ เป็นประเทศ/เขตเศรษฐกิจในเอเชียถึง 7 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจด้วยกัน" ดร.พรพรรณ กล่าว

ดร.พรพรรณ กล่าวว่า นอกจากประเมินด้วยคะแนนเฉลี่ย ยังขยายภาพให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ระบบการศึกษามากขึ้น เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า นักเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์มากน้อยต่างกันอย่างไร โดยรายงานเป็นระดับการรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ แบ่งออกเป็น 6 ระดับ เริ่มจากระดับต่ำสุด คือ ระดับ 1 จนถึงระดับสูงสุด คือ ระดับ 6 โดยระดับ 2 ถือเป็นระดับพื้นฐานต่ำสุดที่นักเรียนวัย 15 ปี ควรจะต้องรู้และสามารถใช้ประโยชน์วิทยาศาสตร์ในชีวิตจริงได้ แต่ถ้าต่ำกว่าระดับ 2 ลงไป ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่นักเรียนแสดงว่ามีความสามารถไม่ถึงระดับพื้นฐาน โดยพบว่า นักเรียนไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2 (410-480 คะแนน) โดยมีจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งคือ 46.7% ที่มีผลการประเมินต่ำกว่าระดับพื้นฐาน หรือรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ไม่ถึงระดับพื้นฐาน ขณะที่ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีนไทเป มีนักเรียนจำนวนมากที่สุดมีคะแนนที่ระดับ 4 (คะแนน 559 - 633) โดยเฉพาะสิงคโปร์มีนักเรียนมากกว่าครึ่ง หรือ 51.9% ที่แสดงความสามารถตั้งแต่ระดับ 4 ขึ้นไป

"หากดูเฉพาะกลุ่มคะแนนบนสุดหรือระดับ 5 และระดับ 6 สิงคโปร์มีนักเรียนประมาณหนึ่งในสี่ หรือ 24.2% จีนไทเปและญี่ปุ่นมีนักเรียนเกือบหนึ่งในหก คือ 15.4% และ 15.3% ตามลำดับ จีนสี่มณฑล 13.6% เกาหลี 10.6% มาเก๊า 9.2% เวียดนาม 8.3% ฮ่องกง 7.4% ส่วนไทยมีนักเรียนกลุ่มบนสุดเพียง 0.5% ทั้งนี้ นักเรียนไทยกลุ่มที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มโรงเรียนเน้นวิทยาศาสตร์มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4 กลุ่มโรงเรียนสาธิตมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 3 กลุ่มโรงเรียน สพฐ. ในสังกัดกรมสามัญศึกษาเดิม (สพม.) มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2 กลุ่มโรงเรียนเอกชนสายสามัญมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่จุดตัดระหว่างระดับ 1a กับระดับ 2 ส่วนกลุ่มโรงเรียนที่เหลือมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1a ได้แก่ โรงเรียน สพฐ. ที่มาจากโรงเรียนขยายโอกาสเดิม (สพป.) โรงเรียนในสังกัดกรมการปกครองท้องถิ่น (กศท.) โรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร (กทม.) และโรงเรียน/วิทยาลัยอาชีวศึกษาของเอกชนและของรัฐ (อศ.1 และ อศ.2)" ดร.พรพรรณ กล่าว


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก MGR Online วันที่ 3 ต.ค. 2560

 


อึ้ง!! คะแนน "วิทยาศาสตร์" นร.ไทยต่ำกว่าทุกประเทศเอเชีย ยกเว้นอินโดฯ เกือบครึ่งไม่รู้วิทย์พื้นฐานอึ้ง!!คะแนนวิทยาศาสตร์นร.ไทยต่ำกว่าทุกประเทศเอเชียยกเว้นอินโดฯเกือบครึ่งไม่รู้วิทย์พื้นฐาน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569

นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569

เปิดอ่าน 309 ☕ 22 พ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
เปิดอ่าน 309 ☕ 22 พ.ย. 2567

ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 279 ☕ 22 พ.ย. 2567

สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 534 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 701 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 810 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,422 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กำเนิดดวงดาว
กำเนิดดวงดาว
เปิดอ่าน 25,643 ครั้ง

ทำไมขนมโดนัทจึงมีรู
ทำไมขนมโดนัทจึงมีรู
เปิดอ่าน 11,814 ครั้ง

"อัดความรู้" แต่แบเบาะ สร้างอนาคตเด็กได้จริงหรือ?
"อัดความรู้" แต่แบเบาะ สร้างอนาคตเด็กได้จริงหรือ?
เปิดอ่าน 11,198 ครั้ง

“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
เปิดอ่าน 10,680 ครั้ง

อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
เปิดอ่าน 111,688 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ