ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ


บทความการศึกษา 25 ก.ย. 2560 เวลา 05:06 น. เปิดอ่าน : 12,136 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

การที่เด็กจะเป็นคนที่มีการเรียนรู้ที่ดี ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากก็คือเด็กคนนั้นต้องเป็นคนที่มีความจำที่ดีด้วย ซึ่งวิธีที่จะพัฒนาศักยภาพทางด้านความจำของลูกให้ได้ผลดีนั้น มีดังนี้

1. ฝึกให้ลูกมีสมาธิ สมาธิกับความจำนั้นเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กัน เพราะแน่นอนว่าคนเราไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่หรือเด็กนั้น หากจะต้องจดจำสิ่งใดให้แม่นยำนั้นก็ต้องใช้สมาธิเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญ ดังนั้นถ้าหากคุณพ่อคุณแม่อยากจะให้ลูกเป็นเด็กที่มีความจำดีก็ต้องเริ่มต้นจากการฝึกสมาธิให้กับลูก ซึ่งวิธีการฝึก สมาธิให้กับเด็กอย่างง่ายๆนั้นเริ่มต้นจากการที่เมื่อลูกต้องทำการบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรลดสิ่งเร้าที่อยู่รอบตัวของลูกให้มากที่สุดเช่น อย่าเปิดทีวี อย่าเปิดวิทยุในขณะที่ลูกทำการบ้าน นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกรู้จักพักสงบกับตนเองเช่น ลองให้ลูกนั่งสงบหลับตาโดยเริ่มต้นจาก 1 นาทีและเมื่อเห็นว่าลูกสามารถสงบได้มากขึ้นก็เพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ ดังนี้ก็จะเป็นการฝึกให้ลูกเป็นเด็กมีสมาธิซึ่งจะทำให้ลูกเป็นคนที่มีความจำดีนั่นเอง

2. เล่นเกมฝึกจำ คุณพ่อคุณแม่สามารถหาเกมที่ ฝึกความจำมาเล่นกับลูกได้ ยกตัวอย่างเช่น เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมจับคู่ภาพ เกมหาคำศัพท์ เกมครอสเวิร์ด เกมเหล่านี้มีประโยชน์กับเด็กมากกว่าการปล่อยให้เด็กดูทีวี เพราะเกมต่างๆเหล่านี้นอกจากจะฝึกให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาแล้วยังช่วยพัฒนาในเรื่องของความจำให้กับเด็กอย่างดีอีกด้วย

3. ชวนลูกเล่นกีฬา การเล่นกีฬาเป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาในเรื่องของความจำให้กับเด็กเป็นอย่างดี เพราะการที่เด็กได้เล่นกีฬาออกกำลังกายนั้นร่างกายทุกส่วนของเด็กได้เคลื่อนไหว ได้แก่ การเดิน วิ่ง กระโดด ซึ่งเมื่อร่างกายทุกส่วนได้เคลื่อนไหวนั้นก็จะส่งผลให้เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้สมองทำงานได้ดียิ่งขึ้นในการเปิดรับต่อการจดจำเรียนรู้ในสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดี

4. ชวนลูกทำกิจกรรมศิลปะ นับเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยฝึกในเรื่องความจำให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี เพราะขณะที่ทำกิจกรรมศิลปะนั้นเด็กจะต้องใช้สมาธิในการใช้มือทำงานประสานกันกับสายตา เช่น วาดภาพ ระบายสี การปั้น การพับ การตัดปะ ซึ่งเมื่อเด็กมีสมาธิที่ดีก็จะส่งผลให้เด็กมีความจำที่ดีนั่นเอง

5. เล่านิทานให้ลูกฟัง การที่คุณพ่อคุณแม่เล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอนจะช่วยเพิ่มความจำให้กับลูก เพราะการที่เด็กๆฟังนิทานนั้นเขาจะต้องมีใจจดจ่อและมีสมาธิกับเนื้อหาของนิทานเรื่องนั้นๆ ซึ่งการเล่านิทานให้ลูกฟังนอกจากจะฝึกสมาธิและทักษะทางด้านการคิด การฟังและภาษาให้กับเด็กแล้ว ยังช่วยพัฒนาทักษะทางด้านความจำของเด็กอีกด้วย

6. ให้ลูกนอนหลับอย่างเพียงพอ โดยธรรมชาติของเด็กนั้นไม่ควรนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวันและ ไม่ควรให้เด็กนอนเกินวันละ 9 ชั่วโมงต่อวันอีกด้วย เพราะการมีคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกนอนน้อยเกินไปหรือนอนมากเกินไปนั้นล้วนส่งผลให้ประสิทธิภาพทางด้านความจำของเด็กลดน้อยลงทั้งสิ้น

ผู้เขียนเชื่อว่าหากคุณพ่อคุณแม่นำทั้ง6ข้อนี้ไปใช้กับลูกแล้ว ลูกของคุณจะเป็นคนที่มีความจำดีได้ไม่ยากเลย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ

ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก MGR Online วันที่ 24 กันยายน 2560

 


ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี:ดร.สุพาพรเทพยสุวรรณ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

หนี้การศึกษา

หนี้การศึกษา


เปิดอ่าน 8,205 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ระบบการศึกษาที่ไม่สมดุล (1)

ระบบการศึกษาที่ไม่สมดุล (1)

เปิดอ่าน 8,434 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?
เปิดอ่าน 8,083 ☕ คลิกอ่านเลย

การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน
เปิดอ่าน 32,188 ☕ คลิกอ่านเลย

ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 12,262 ☕ คลิกอ่านเลย

เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน
เปิดอ่าน 7,414 ☕ คลิกอ่านเลย

วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 14,482 ☕ คลิกอ่านเลย

เงินเดือนเป็นความลับ
เงินเดือนเป็นความลับ
เปิดอ่าน 22,931 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

สถิติการศึกษาของประเทศไทย ปีการศึกษา 2556-2557
สถิติการศึกษาของประเทศไทย ปีการศึกษา 2556-2557
เปิดอ่าน 15,729 ครั้ง

มาทำความรู้จักกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนากันเถอะ
มาทำความรู้จักกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนากันเถอะ
เปิดอ่าน 15,741 ครั้ง

ลายมือของคนจะสบายตอนบั้นปลาย
ลายมือของคนจะสบายตอนบั้นปลาย
เปิดอ่าน 35,164 ครั้ง

รายการคำทับศัพท์รวบรวมจากการสะกดตามราชบัณฑิตยสถาน
รายการคำทับศัพท์รวบรวมจากการสะกดตามราชบัณฑิตยสถาน
เปิดอ่าน 297,943 ครั้ง

วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
เปิดอ่าน 22,807 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ