เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2560 เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ ได้เผยแพร่ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 498/2560 เรื่อง ผลประชุม ก.ค.ศ. 14/2560 มีรายละเอียด ดังนี้
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 14/2560 เมื่อวันพุธที่ 20 กันยายน 2560 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. ในฐานะเลขานุการ ก.ค.ศ. ร่วมประชุม ซึ่งได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้
• เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ศึกษานิเทศก์สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
-
ผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ.
- มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ. กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งศึกษานิเทศก์
- ดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ 2 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโท ขึ้นไป หรือ
- ดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า ได้แก่ เคยดำรงตำแหน่งอาจารย์ 1 ไม่น้อยกว่า 6 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาตรี และ 4 ปี สำหรับผู้มีวุฒิปริญญาโทขึ้นไป หรือ เคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอาจารย์ 2 รับเงินเดือนในระดับ 6
- มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพบุคลากรทางการศึกษาอื่น (ศึกษานิเทศก์)
-
ผู้สมัครต้องเลือกสมัครเข้ารับการคัดเลือกในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เพียงแห่งเดียวเท่านั้น และต้องรับรองตนเองด้วยว่าในวันบรรจุและแต่งตั้งตนเองไม่ติดเงื่อนไขอื่นใดที่ ก.ค.ศ. กำหนด
-
ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการในการกำหนดวันและเวลาในการคัดเลือก ดำเนินการและบริหารจัดการเกี่ยวกับการออกข้อสอบภาค ก และกำหนดตัวชี้วัด องค์ประกอบการประเมินและคะแนนการประเมิน ภาค ข ตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ. กำหนด
-
ให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นผู้ดำเนินการคัดเลือก
-
เกณฑ์การตัดสิน ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องได้คะแนนภาค ก และภาค ข ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และต้องได้คะแนนรวมทั้งสองภาค ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
-
ให้ศึกษาธิการจังหวัดเป็นผู้สั่งบรรจุและแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ กศจ. โดยจะบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานตำแหน่งและผ่านการพัฒนาฯ เท่านั้น
-
ขึ้นบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก 1 ปี นับแต่วันประกาศขึ้นบัญชี
• อนุมัติกำหนดตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า เพื่อกำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง รองศึกษาธิการจังหวัด ได้แก่
ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา
|
ตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า
|
1.1 ประเภทอำนวยการ ระดับต้น
|
- ตำแหน่งที่เทียบเท่ากับตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น ได้แก่
1) ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
2) ผู้อำนวยการ สช.อำเภอ วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
3) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น
4) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ ก.พ. เทียบเท่ากับประเภทอำนวยการ ระดับต้น
|
1.2 รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา/รองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด/กทม. /รองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด
|
- ไม่มีตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จะกำหนดให้เทียบเท่ากับตำแหน่งต่าง ๆ ดังกล่าว
|
1.3 ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ
|
- ตำแหน่งที่เทียบเท่ากับตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ ได้แก่
1) ครู วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
2) ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
3) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
4) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ
|
1.4 ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส
|
-ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส
|
• เลือกอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา และด้านการเงินการคลัง ด้านละ 1 คน อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 3 คน เพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
- อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา และด้านการเงินการคลัง ได้แก่ นายวิวัฒน์ แหวนหล่อ, นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี, นายวัชรินทร์ จำปี และนางผานิตย์ มีสุนทร
- อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ ว่าที่ร้อยตรี อานนท์ สุขภาคกิจ, ว่าที่ร้อยตรี สมปอง วิมาโร และนายสมคิด เจ้ยชุม
นอกจากนี้ ได้รับทราบการเสนออนุกรรมการข้าราชการในสังกัดที่ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร หรือประเภทวิชาการ จำนวน 3 คน และอนุกรรมการผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ซึ่งได้แก่ นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายกฤตชัย อรุณรัตน์ เลขาธิการ กศน., นายพะโยม ชิณวงศ์ เลขาธิการ กช. และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.
• เลือกอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา และด้านการเงินการคลัง ด้านละ 1 คน อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 3 คน เพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดังนี้
- อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา และด้านการเงินการคลัง ได้แก่ นายนนทพงศ์ ยอดทอง, นายทบทวน ชำนาญค้า, นายอดิพล ไผ่แสวง และนายเริงจิตร์ ลาภมีสม
- อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้แก่ นายบุญลือ ทองเกตแก้ว, ว่าที่ร้อยตรี ชอบ สมบุญเพ็ญ และนางผ่องพรรณ จรัสจินดา
นอกจากนี้ ได้รับทราบการเสนออนุกรรมการข้าราชการในสังกัดที่ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร หรือประเภทวิชาการ จำนวน 3 คน และอนุกรรมการผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้แก่ นายบุญส่ง จำปาโพธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นายสาโรจน์ ขอจ่วนเตี๋ยว ผอ.วิทยาลัย รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาช่างอุตสาหกรรม, นายพรรษา ฉายกล้า ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และนายยศพล เวณุโกเศศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล สำนักงาน ก.ค.ศ.
• อนุมัติจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2560 จำนวน 24,163 อัตรา ให้กับส่วนราชการต่าง ๆ ดังนี้
ที่
ส่วนราชการ
|
ตำแหน่ง
|
จำนวน(อัตรา)
|
1.
|
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สถาบันวิทยาลัยชุมชน)
|
ครูผู้ช่วย
|
3
|
รวม
|
3
|
2.
|
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
|
เจ้าหน้าที่บริหารการศึกษา
|
2
|
ศึกษานิเทศก์
|
6
|
บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)
|
16
|
รวม
|
24
|
3.
|
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
|
ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด
|
7
|
รองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด
|
2
|
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
|
45
|
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
|
1
|
ครูผู้ช่วย
|
42
|
ศึกษานิเทศก์
|
7
|
บุคลากรทางการศึกษาศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)
|
3
|
รวม
|
107
|
4.
|
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
|
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
|
44
|
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
|
91
|
ครูผู้ช่วย
|
669
|
รวม
|
804
|
5.
|
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
|
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
|
22
|
รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
|
56
|
ผู้อำนวยการสถานศึกษา
|
2,069
|
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
|
475
|
ครูผู้ช่วย
|
19,962
|
ศึกษานิเทศก์
|
249
|
บุคลากรทางการศึกษาศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)
|
313
|
รวม
|
23,146
|
6.
|
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
|
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
|
2
|
อาจารย์
|
3
|
ครูผู้ช่วย
|
31
|
บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)
|
1
|
รวม
|
37
|
7.
|
สถาบันการพลศึกษา
|
อาจารย์
|
38
|
ครูผู้ช่วย
|
1
|
บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)
|
3
|
รวม
|
42
|
รวมทั้งสิ้น
|
24,163
|
ทั้งนี้ การอนุมัติจัดสรรคืนอัตราว่างของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จากผลการเกษียณอายุราชการ ให้ส่วนราชการดำเนินการเกลี่ยอัตรากำลังที่ได้รับการอนุมัติไปกำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาตามเงื่อนไขที่ คปร.กำหนดโดยเคร่งครัด ตำแหน่งที่กำหนดต้องมีจำนวนและประเภทตำแหน่งตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด และให้กำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาที่มีอัตรากำลังไม่เกินกรอบอัตรากำลังหรือเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดยให้ใช้อัตรากำลังได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560
ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กศน. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กันอัตราตำแหน่งครูผู้ช่วยที่ได้รับจัดสรรคืน เพื่อรองรับการบรรจุบุคคลตามโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ตามมติ ครม.และที่ประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ไม่เกินร้อยละ 25 ของอัตราตำแหน่งข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการในรอบ 10 ปี (ปี พ.ศ.2559-2568) โดยให้เป็นไปตามข้อตกลงของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษากับส่วนราชการนั้น ๆ และมอบหลักการให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เสนอเรื่องการขอยกเว้นเงื่อนไขการจัดสรรคืนอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากผลการเกษียณอายุราชการให้กับสถานศึกษาที่มีนักเรียนน้อยกว่า 250 คน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปกติ สังกัด สพฐ. เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 และเสนอ ก.ค.ศ. และ คปร.เพื่อพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จำนวน 1 อัตรา ได้แก่ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ
• เห็นชอบให้เสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ยกเว้นเงื่อนไขการจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครู เฉพาะสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 คืนให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาสที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 250 คน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปกติแต่ประสบปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังครู จาก 41 เขตพื้นที่การศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 1,008 แห่ง จำนวน 1,206 อัตรา
• เห็นชอบกำหนดแนวปฏิบัติในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับข้าราชการครูที่ไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่
-
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเดิมในโรงเรียนหัวหิน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล
-
แนวปฏิบัติในการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ไปบรรจุและแต่งตั้งในโรงเรียนหัวหิน สังกัด สพม. เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล
-
แนวปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มสำหรับครูผู้ช่วย โรงเรียนหัวหิน สังกัด สพม. เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล
-
แนวปฏิบัติการเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนหัวหิน สังกัด สพม. เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล
-
แนวปฏิบัติการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ไปช่วยราชการในสถานศึกษาตามโครงการพระราชดำริ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ (สายงานการสอน)
ทั้งนี้ เห็นควรกำหนดเงื่อนไขในการใช้ตำแหน่งว่าง ดังนี้
-
ให้พิจารณากำหนดสัดส่วนเพื่อใช้ในการรับย้ายและการคัดเลือก ได้ตามความเหมาะสมและความจำเป็นของสถานศึกษา
-
การกำหนดวิชาเอกเพื่อใช้ในการรับย้ายและการคัดเลือก ให้พิจารณาตามความเหมาะสมและความจำเป็นของสถานศึกษา
-
ให้ใช้ตำแหน่งว่างพิจารณารับย้ายก่อน หากมีตำแหน่งว่างเหลือจากการรับย้าย ให้นำตำแหน่งดังกล่าวไปใช้ในการคัดเลือกได้
-
ผู้ได้รับการย้ายและผู้ที่ได้รับการคัดเลือกและรับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนหัวหิน สังกัด สพม.เขต 10 เพื่อไปช่วยปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนวังไกลกังวล จากจะขอไปดำรงตำแหน่งนอกสังกัดเดิม ต้องมีระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่สอนอยู่ในโรงเรียนวังไกลกังวลเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี
-
ให้ใช้แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้าย ฯ นี้ เฉพาะการย้ายครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2560 เท่านั้น
• เห็นชอบให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยหรือตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะ เข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนาให้การรับรอง จำนวน 1,455 หลักสูตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ใช้ได้กับทุกวิทยฐานะ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จนกว่า ก.ค.ศ. จะกำหนดเป็นอย่างอื่น
ดรุวรรณ บุญมาก, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
อิทธิพล รุ่งก่อน: ถ่ายภาพ
21/9/2560
ที่มา เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 21 กันยายน 2560