หุ่นยนต์-ข้อมูลคืออุตสาหกรรมพลิกโลก
อเล็ก รอสส์ ระบุ มี 5 อุตสาหกรรมที่จะพลิกโฉมโลกอนาคตทั้งอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ พันธุกรรม ข้อมูล ความปลอดภัยไซเบอร์และบิทคอยน์
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค จัดงาน ‘Shift Happens: พลิกธุรกิจให้ทันวันพรุ่งนี้’ ครั้งแรกกับงานทอล์กที่ ‘เปิด’ มุมมองธุรกิจแห่งโลกอนาคต ให้เห็นโอกาส รู้ทันความท้าทาย และ ‘พลิก’ ธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและสร้างสังคมที่ดีขึ้นไปพร้อมกัน
โลกของเราก้าวสู่อนาคตด้วยความเร็วไวกว่าแสง หลายอาชีพกำลังจะตกงาน หลายธุรกิจกำลังจะสูญพันธุ์ มีการคาดการณ์ว่า ราว 6% ของงานที่มีอยู่ในปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในอีกเพียง 5 ปี ข้างหน้า และจะเพิ่มขึ้นเป็น 47% ภายใน 20 ปี ในขณะที่อุตสาหกรรมและธุรกิจที่จะนิยามโลกยุคใหม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาแล้ว วิธีคิดในการทำธุรกิจก็กำลังเปลี่ยนไปเช่นกัน เมื่อการวัดความโปร่งใสขององค์กรภาคธุรกิจ (Defence Companies Anti-Corruption Index) คือ เทรนด์ใหม่ที่กำลังมา ผู้บริโภคมีอำนาจกำกับพฤติกรรมภาคธุรกิจอย่างเข้มข้น ภาคธุรกิจจึงต้องคิดให้ละเอียด ในวันที่กว่า 70% ของผู้บริโภครุ่นใหม่จากทั่วโลกไม่ได้ต้องการเพียงแค่สินค้าและบริการที่ดี แต่ต้องการมั่นใจว่า ภาคธุรกิจมีความโปร่งใสด้วย ดังนั้น ‘ความโปร่งใส’ จึงกลายเป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการทำธุรกิจในอนาคตอันใกล้ และความอยู่รอดของธุรกิจกลายเป็นเรื่องเดียวกับการสร้างสังคมที่ดีกว่า
อเล็ก รอสส์ (Alec Ross ) อดีตที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมของฮิลลารี คลินตัน สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และเคยเป็นคณะทำงานด้านนโยบายเทคโนโลยี สื่อ และการสื่อสารในแคมเปญการเลือกตั้งของ อารัค โอบามา ได้กล่าวในหัวข้อ พลิกทันอนาคต (The Industries of the Future) ว่า อุตสาหกรรมที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมแห่งโลกอนาคต ได้แก่
- อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
- อุตสาหกรรมพันธุกรรม
- อุตสาหกรรมข้อมูล
- อุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ และ
- อุตสาหกรรมบิทคอยน์
ซึ่งอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ไม่ได้หมายถึง แค่นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ แต่เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำ เกิดระบบนิเวศภายในอุตสาหกรรมจนทำให้ราคาถูก ผู้บริโภคส่วนใหญ่ (mass) เข้าถึงสินค้าได้
การมองเห็นทิศทางของเทคโนโลยี นวัตกรรม และอุตสาหกรรมในอนาคตเป็น ‘เงื่อนไขที่จำเป็น’ สำหรับการคว้าโอกาสทางเศรษฐกิจในโลกใหม่ แต่ยังไม่ใช่ ‘เงื่อนไขที่เพียงพอ’ การมุ่งสู่อนาคตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องมีองค์ประกอบอื่นมาช่วยหนุนเสริม
สังคมเศรษฐกิจแบบเปิด (Openness) ซึ่งพูดอย่างเป็นรูปธรรมคือ การมีธรรมาภิบาลที่ดี การมีกฎกติกาที่เอื้อต่อการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีความโปร่งใส มีสื่อที่เป็นอิสระจากอำนาจคอยตรวจสอบความผิดปกติ สร้างการมีส่วนร่วม และให้ความสำคัญกับการกระจายโอกาสให้กับทุกคน
สังคมแบบปิด (Closed) ที่ไร้ธรรมาภิบาล ไร้ความโปร่งใส กฎกติกาไม่เป็นธรรม คอร์รัปชันสูง สื่อถูกควบคุมจนไม่สามารถตรวจสอบได้ สามารถสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนได้แค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น และทำงานเฉพาะในอุตสาหกรรมแบบเก่าเท่านั้น ในอุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องพึ่งพิงความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเทคโนโลยี สังคมเศรษฐกิจแบบปิดจะไม่สามารถทำงานได้เลย และประเทศจะติดหล่มในที่สุด
ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2560 เวลา 07.05 น.