[ สยามรัฐ ] - "หมอธี"ย้ำบูรณาการศธจ.-เขตพื้นที่/จุดเน้นคุณภาพผู้เรียน-จัดงบฯ อัพเกรดบุคลากร 4 สาย มอบสถาบันคุรุพัฒนาจัดหลักสูตรรอท่า
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร ศธ. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้เชิญผู้บริหารแต่ละคนไปรับนโยบาย โดยส่วนของสำนักงานปลัด ศธ. ซึ่งมีหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของ ศธ.ในภูมิภาค นั้น รมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) จะต้องทำงานร่วมกันกับผอ.เขตพื้นที่การศึกษา โดยให้ยึดตาม 6 ยุทธศาสตร์ ของแผนการศึกษาแห่งชาติระยะ 20 ปี เพื่อให้ผลของการปฏิบัติงานร่วมกันให้เกิดกับเด็กเป็นสำคัญ
นายการุณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัญหาข้อขัดแย้งประเด็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งภายในเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ที่ว่าเป็นอำนาจของ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ขณะที่ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2560 ข้อ13ให้เป็นอำนาจของ กศจ. ซึ่งทำให้เกิดความสับสนอย่างมากในเขตพื้นที่นั้น เบื้องต้นตนได้หารือเรื่องนี้กับนายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการ กพฐ. รักษาราชการแทนเลขาธิการ กพฐ.แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียด โดยจะพยายามแก้ปัญหาเพื่อให้การทำงานร่วมกันเป็นไปด้วยความราบรื่นและยึดผลที่จะเกิดกับเด็กเป็นตัวตั้ง
ด้าน นายบุญรักษ์ กล่าวว่า รมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับเรื่องการทำงานกันระหว่าง ศธจ. และ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ให้ไปดูว่าจะบูรณาการกันอย่างไรให้งานได้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเน้นไปที่การพัฒนาผู้เรียนให้มากขึ้น ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นนอกจากต้องพัฒนาห้องเรียนให้นักเรียนสามารถเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ครูก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยครูต้องมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของความเป็นครูที่แท้จริง ซึ่งวันนี้มีความชัดเจนแล้วว่า จะต้องมีการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้ง 4 สายงาน ให้ได้รับการพัฒนาตั้งแต่สายงานบริหาร สายงานศึกษานิเทศก์ สายงานผู้สอน และสายงานอื่น 38ค(2) ซึ่งจะได้รับสิทธิในการพัฒนาในงบประมาณที่เท่ากัน ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ ได้ให้นโยบายแก่สถาบันคุรุพัฒนา ให้จัดหลักสูตรที่จะรองรับเรื่องของการพัฒนาครูบุคลากรเหล่านี้ชัดเจนแล้ว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก สยามรัฐออนไลน์ 4 กันยายน 2560