อดีตบอร์ดสมศ.ชี้ตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาทำให้ภาคเอกชนเดือนร้อนแน่น เหตุกับไปเป็นระบบราชการทำให้ประสานงานไม่คล่องตัว ฝากคิดให้ดีย้ำหวังดีไม่ได้จบดีเสมอไป
วันนี้(4 ก.ย.)นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ ประธานกรรมการบริษัท บอยเตน แอสโซซิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะอดีตกรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าหน่วยงานในภาคเอกชนยังไม่มีขีดความสามารถเพียงพอในการสร้างสิ่งใหม่ได้เอง ต้องอาศัยอาจารย์ในมหาวิทยาลัยผู้ที่มีความรู้ และความสามารถให้เข้ามาช่วย โดยการทำงานวิจัย และต่อยอดผลงานต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้เป็นส่วนราชการจะทำงานร่วมกับภาคเอกชนได้อย่างคล่องตัวมาก เพราะไม่ต้องไปยึดกับระบบราชการมากเกินไป และขณะนี้ตนเห็นว่ามหาวิทยาลัยไทยก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลายคนเข้าใจ และก็ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรจนถึงต้องตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา ถ้าเป็นกระทรวงการอุดมศึกษาต้องทำงานตามระเบียบภาครัฐ ซึ่งจะทำให้การทำงานกับภาคเอกชนยุ่งยากมากขึ้น
“ การตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาขึ้นมาทำให้รู้สึกพะอืดพะอม และภาคเอกชนจะเดือนร้อนแน่ เพราะจะไม่มีที่พึ่ง เนื่องจากมหาวิทยาลัยจะต้องกลับไปเป็นส่วนงานราชการซึ่งเป็นเรื่องที่หดหู่ต้องบริหารงานโดยยึดระเบียบของราชการ กฏหรือระเบียบราชการที่มีการกำหนดไว้ในการดำเนินการตามในขณะนี้เป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก ที่ผ่านมาภาครัฐก็ออกระเบียบที่มาควบคุมประชาชนมากอยู่แล้ว โดยมีคู่มือต่างๆต้องทำตามถึง 8 แสนเล่ม อย่างไรก็ตามผมเข้าใจว่าคนที่มาทำเรื่องการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษานั้นคิดดี แต่ผลที่ได้อาจจะไม่ดีอย่างที่คิด อีกทั้งยังไม่เคยทำงานในส่วนราชการ หรือเป็นปลัดกระทรวง จึงทำให้ไม่รู้ว่ากฏกติกาของราชการนั้นสุดจะทนทาน จึงอยากให้ฟังเสียงของภาคเอกชนบ้าง และผมเห็นด้วยปัญหาอุดมศึกษาแก้ไขด้วยการแก้พ.ร.บ.การอุดมศึกษาก็พอแล้ว ขอย้ำการหวังดีนั้นไม่ได้จะจบดีเสมอไป” นายชัยณรงค์ กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2560 เวลา 10.30 น.