รมว.ศึกษาธิการ แจงเหตุย้าย “การุณ” นั่งปลัดศธ. ดัน “บุญรักษ์” ขึ้นเลขาธิการกพฐ. เพื่อบูรณาการการศึกษาในส่วนภูมิภาค ที่ยังแตกแยก เตรียมพร้อมตั้งงบฯปี 62 ที่ต้องเสนอขึ้นมาในระดับพื้นที่
วันนี้(30 ส.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของศธ. โดยย้าย ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ไปเป็น เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นปลัดศธ. และแต่งตั้งดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการกพฐ. เป็น เลขาธิการกพฐ. นั้น วันนี้ตนได้เรียกนายการุณ และดร.บุญรักษ์ มาให้นโยบายการทำงาน ตั้งแต่เรื่องการพิจารณาข้าราชการระดับ 10และระดับ9 ที่ยังว่างอยู่ โดยให้เร่งเสนอรายชื่อระดับ 10 มาเพื่อเสนอให้ครม.พิจารณา รวมถึงหารือเรื่องงานบูรณาการการศึกษาในส่วนภูมิภาค และการใช้งบประมาณเหลือจ่าย ปี2560 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ยังเหลืออยู่ เป็นต้น
“ผมอยากให้การทำงานในยุคนี้มีความเป็นมืออาชีพหรือ โปรเฟสชันนอล มากที่สุด ซึ่งก่อนการเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายระดับ 11 ครั้งนี้ ได้เรียกดร.ชัยพฤกษ์มาคุยว่า ถ้าจะมีการย้ายระดับ11 ปลัดศธ. อยากอยู่ที่ไหน ซึ่งดร.ชัยพฤกษ์ ก็ตอบว่า อยู่ที่สกศ. ซึ่งผมก็ดีใจ เพราะสกศ. ต้องดูแลคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ดูแลแผนการศึกษาชาติ และในบรรดาซี11 ทั้งหมด คนที่เก่งวิชาการที่สุด คือ ดร.ชัยพฤกษ์ เมื่อตำแหน่งปลัดศธ.ว่าง ก็มองไปข้างหน้าว่า ใครควรทำงานอย่างไร โดยสาเหตุที่ให้ดร.บุญรักษ์ มาเป็นเลขาธิการกพฐ. เพราะดูแลการพัฒนาการศึกษาที่สำคัญหลายเรื่อง เช่น คูปองอบรมพัฒนาครู อิงลิชบูธแคมป์การพัฒนาครูแกนนำภาษาอังกฤษ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และที่สำคัญคือ การปฏิรูปการศึกษาในส่วนภูมิภาค ที่มีการแตกแยกกัน ดังนั้นเมื่อให้นายการุณ มาเป็นปลัดศธ. และให้นายบุญรักษ์มาเป็นเลขาธิการกพฐ. ก็เชื่อว่า การบูรณาการการทำงานในพื้นที่จะดีขึ้น เพราะทั้ง 2 คนทำงานด้วยกันมาก่อน หากรู้ว่า ฝ่ายสพฐ.คิดอย่างไร ฝ่ายปลัดศธ. คิดอย่างไร ก็จะทำงานร่วมกันได้ อีกทั้งงานบูรณาการก็เป็นงานหลัก ซึ่งปีหน้าที่จะเริ่มทำงบประมาณ ปี2562 ที่ให้หน่วยงานระดับพื้นที่ตั้งงบฯขึ้นมา ดังนั้นหากทั้งปลัดศธ. และเลขาธิการกพฐ. ไม่ประสานงานกันดี ๆ จะขัดแย้งกันหนักขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าจากนี้งานจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีทางแย่ลง”นพ.ธีระเกียรติ กล่าว และว่า ส่วนที่มีคนบอกว่า นายบุญรักษ์ ไม่เหมาะสม และมีปัญหาการทุจริตนั้น หากนายบุญรักษ์ ไม่ดีจริงตามที่มีการกล่าวหากันทางโซเชียลก็ขอให้ขุดมาว่า ผิดอย่างไร ตนตั้งได้ ก็ปลดได้ ตอนนี้มีการสาดโคลนกันมาก และส่วนใหญ่ก็จะมาจากผู้ที่เสียประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้ายในส่วนกลาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ สะท้อนถึงความไม่มีธรรมาภิบาลของ รัฐมนตรีว่าการศธ. และมีกระแสว่า มีคนของรัฐมนตรีว่าการศธ. เข้าไปล้วงลูกตั้งแต่การแต่ตั้งข้าราชการระดับ9 นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ตนไม่เคยเข้าไปล้วงลูก แต่ถ้ารู้ประวัติใครก็สามารถท้วงติงได้ แต่ถ้าผู้บริหารไม่ฟัง ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นอำนาจของแต่ละองค์กรหลัก ตนพูดได้ว่า ยุคนี้มีธรรมาภิบาลสุด ๆ โปร่งใสที่สุด คนที่กล่าวหาก็พูดลอยๆ มีหลักฐานหรือไม่ มีมูลไหม ต้องดูการกระทำของคนเป็นหลัก รวมถึงทีมงานของตนก็ไม่มีเข้าไปลวงลูกแน่นอน มีคนชอบหาว่า เลขานุการรัฐมนตรีว่าการศธ. เป็นเจ้าแม่ หรือที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการศธ. ไปล้วงลูกในการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับต่าง ๆ ก็ไม่มี เพราะตนปรามไว้หมดแล้ว แต่ ถ้ามีก็เป็นความผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจ อาจไปคุยกับคนโน้น คนนี้ เพื่อหาข้อมูลเท่านั้น ตนไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีใครเข้ามามีอิทธิพลกับตนได้ ใครก็สั่งไม่ได้ วันนี้ถ้านายกรัฐมนตรี สั่งให้ตนไปตนก็พร้อมไป
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 30 สิงหาคม 2560 เวลา 14.31 น.