สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานแนวทางจัดการศึกษาคุ้มค่า

ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานการประชุม มีพระราชดำรัสเรื่องการใช้เทคโนโลยีของโรงเรียนต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ให้มากขึ้น เนื่องจากพบว่าหลายโรงเรียนใช้ไอซีทีไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุน รวมทั้งการใช้คอมพิวเตอร์ก็ต้องให้คุ้มค่าด้วย นอกจากนี้ ทรงแสดงความเป็นห่วงโรงเรียนอื่นๆที่มีผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ต่ำ จึงมีรับสั่งให้ต้นสังกัดเข้าไปช่วยเหลือดูแล ปัญหาเหล่านี้ด้วย ทั้งทรงเห็นว่าการประเมินโอเน็ตไม่ควรเน้นอิงกลุ่มเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบ แต่ควรอิงเกณฑ์ด้วยเพื่อดูผลการพัฒนาคุณภาพของแต่ละโรงเรียน

ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีพระราชดำรัสถึงโรงเรียนที่ประสบภัย พิบัติสึนามิ ในพื้นที่ภาคใต้เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา พบว่าปัจจุบันอาคารเรียน โต๊ะเก้าอี้ อยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรม ซึ่งในเรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จะไปสำรวจสภาพปัจจุบันของโรงเรียนที่ประสบภัยสึนามิ ถ้าไม่เสียหายมาก สพฐ.จะเจียดงบประมาณปี 2560 ลงไปดำเนินการในปีนี้ แต่หากได้รับความเสียหายมากจะของบกลางปี 2561 อย่างไรก็ตาม มีพระราชดำรัสด้วยว่าควรเปิดโอกาสให้เอกชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับปรุงอาคารเรียนที่ได้รับความเสียหาย.

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ 24 ส.ค. 2560

พระเทพฯทรงให้กำลังใจครูโรงเรียนผลโอเน็ตต่ำ

สมเด็จพระเทพฯทรงให้กำลังใจครูสอนเต็มที่แล้วแต่ผลโอเน็ตต่ำ เพราะความไม่พร้อมของโรงเรียน มีพระราชดำรัสให้ต้นสังกัดช่วยดูแลปัญหา

วันนี้(23 ส.ค.)ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานการประชุม ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้มีพระราชดำรัสถึงโรงเรียนที่ประสบภัยพิบัติสึนามิ ในพื้นที่ภาคใต้เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา พบว่าโรงเรียนที่ได้รับการซ่อมแซมและพัฒนาให้กลับสู่สภาพปกติ นั้น ปัจจุบันอาคารเรียน โต๊ะเก้าอี้ อยู่ในสภาพที่ชำรุด ทรุดโทรม ทำให้นักเรียนไม่ได้รับความสะดวกและทรงเป็นห่วงว่าอาจจะเป็นอันตราย จึงให้ ศธ.เร่งช่วยเหลือโดยเร็ว ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานส่งเสริมกาารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ไปสำรวจสภาพปัจจุบันของโรงเรียนที่ประสบภัยสึนามิทุกจังหวัดเป็นรายโรง ถ้าไม่เสียหายมาก สพฐ.จะเจียดงบประมาณปี 2560 ลงไปดำเนินการในปีนี้ แต่หากได้รับความเสียหายมากจะของบกลางปีงบฯ 2561 โดยจะมีทั้งส่วนที่ปรับปรุงและสร้างใหม่ ทั้งนี้ ทรงมีพระราชดำรัสด้วยว่า ควรเปิดโอกาสให้เอกชนและประชาชนมามีส่วนร่วมในการปรับปรุงอาคารเรียนที่ได้รับความเสียหาย โดยสถานศึกษาต้องมีระบบบริหารการเงินที่มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้

ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวต่อไปว่า พระองค์ท่านยังมีพระราชดำรัสให้โรงเรียน มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ให้มากขึ้น เนื่องจากหลายโรงเรียนใช้ไอซีทีไม่คุ้มค่ากับงบฯที่ลงทุน เช่น การที่โรงเรียนซื้อสื่อ ซอฟท์แวร์ แอปพลิเคชัน ก็ควรให้เด็กใช้อย่างคุ้มค่าแม้แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ ก็ไม่ควรใช้แค่พิมพ์งาน หรือวาดรูป แต่ควรใช้ค้นหาความรู้ใหม่ๆ ฝากให้ ศธ.ไปดำเนินการเรื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ ทรงรับทราบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ของโรงเรียนต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ที่ได้คะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ แต่ก็ทรงพบว่าโรงเรียนที่ยากลำบากต่างจากโรงเรียนที่มีความพร้อมอย่างมาก โดยมีรับสั่งว่าโรงเรียนที่ได้ผลคะแนนโอเน็ตต่ำก็มีปัญหามากมาย ทั้งที่ครูพยายามสอนอย่างเต็มที่ แต่เป็นเพราะโรงเรียนไม่พร้อม ซึ่งเราต้องเข้าใจครูว่าเมื่อไม่มีความพร้อมได้ผลคะแนนออกมาแค่นี้ก็ดีมากแล้ว และขอให้ต้นสังกัดไปช่วยเหลือดูแลปัญหาเหล่านี้ด้วย อีกทั้ง ในการประเมินโอเน็ตก็ไม่ควรเน้นอิงกลุ่มเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบ แต่ควรอิงเกณฑ์ด้วยเพื่อดูผลการพัฒนาคุณภาพแต่ละโรงเรียน

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 23 สิงหาคม 2560 เวลา 14.41 น.