เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ ได้เผยแพร่ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 399/2560 เรื่อง สพค. สพฐ. ชี้แจงปัญหาระบบการลงทะเบียนออนไลน์ครูผู้เข้ารับการพัฒนาแนวใหม่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
สพค. สพฐ. ชี้แจงปัญหาระบบการลงทะเบียนออนไลน์ครูผู้เข้ารับการพัฒนาแนวใหม่
27 กรกฎาคม 2560 - สำนักพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพค. สพฐ.) ได้ชี้แจงและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับปัญหาระบบการลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา ตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะและการพัฒนาข้าราชการครูแนวใหม่ ซึ่งได้มีการจัดหลักสูตรอบรมให้ครูสามารถเลือกอบรมพัฒนาระบบออนไลน์ได้ตามความต้องการ โดยครูจะได้รับงบประมาณอบรมคนละ 1 หมื่นบาทต่อปี ดังนี้
เรียน ผอ.เขต/รักษาการ ผอ.เขต/ ผอ.รร./ ครู และทุกท่าน
กรณีที่เข้าระบบไม่ได้หรือมีปัญหา ช่องทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหา มีดังนี้
1. Email: hrdtrainingobec@gmail.com
2. Line@: @trainingobec
3. Tel: 062 622 4747 หรือ 02 288 5634-5
กรณีที่ครูพบปัญหา ดังต่อไปนี้
1. จำรหัสผ่านเข้าระบบ training.obec.go.th ไม่ได้
2. จำ E-mail ตนเองไม่ได้
3. จำ รหัสผ่าน E-mail ตนเองไม่ได้
ให้กรอกคำร้องเพื่อรับรหัสผ่านที่
https://goo.gl/forms/QtCxUt2E2O80Q2MJ3
กรณีที่ครูสำรองเงินจ่ายแล้วและถูกระบบยกเลิกเนื่องจากการยืนยันลงทะเบียนไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา หรือมีปัญหา ดังต่อไปนี้
1. กรณีครูจ่ายค่าอบรมไปก่อน โดยใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่าย
2. กรณีครูจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินหรือจองตั๋วรถทัวร์ ล่วงหน้าแล้ว โดยใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่าย
3. กรณีครูจ่ายค่าที่พักล่วงหน้า โดยใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่าย
4. กรณียืมเงินจากสถานศึกษา หรือ เขตพื้นที่ จ่ายค่าลงทะเบียน,ค่าที่พัก,ค่าเดินทาง ล่วงหน้าแล้ว
ให้กรอกแบบกรอกข้อมูลการอบรม โดยตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนยืนยันในระบบ
(กรุณาใช้ chrome ในการกรอกข้อมูล)
แบบกรอกข้อมูล https://goo.gl/forms/lzGNXkhp2W4F3XJn2
กรณีที่หลักสูตรบางหลักสูตร เลื่อนหรือยกเลิกการอบรม รายละเอียด ดังนี้
- ถ้าผู้จัดขอเลื่อน โดยแจ้งมายัง สพค. ให้เปลี่ยนวันที่อบรมและสถานที่อบรมนั้น เจ้าของหลักสูตรจะต้องแจ้งกลับไปยังครูที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้าแล้วทุกคน ถ้าไม่แจ้ง ให้ครูแจ้งมาทาง ผอ.เขตพื้นที่ ซึ่งจะรวบรวมให้ส่วนกลางหรือแก้ไขปัญหาตามดุลยพินิจของ ผอ.เขตเลย (ในกรณีที่จัดการได้) ส่วนปัญหาที่ต้องร่วมกันตัดสินใจ ส่งมาที่ส่วนกลางหรือไลน์รวม ผอ.เขต หรือให้ครูส่งข่าวมาที่ @trainingobec
- ถ้าผู้จัดเลื่อนหรือยกเลิกโดยไม่แจ้ง (แต่หลักสูตรนั้นจะต้องยังคงอยู่ใน shopping list) ครูสามารถลงทะเบียน "ให้ 1 ดาว" และแสดงความคิดเห็นได้
โดยครูจะได้รับลิ้งค์ให้ประเมินความพึงพอใจหลังจากหมดระยะเวลาการอบรมแล้ว ใส่มาให้เต็มที่ ตามความเป็นจริง สพค. จะนำข้อมูลทั้งหมดที่ครูเสียหายทำเรื่องไปที่สถาบันคุรุพัฒนาให้ถอนออกจาก list ที่ครู shopping รวมทั้งจะประกาศให้ครูทุกท่านทราบว่า ต่อไปอย่าเลือกอีก รักษาสิทธิ์ตรงนี้ ช่วยกันแก้ปัญหา
วันที่ 27 ก.ค. 60
Cr. ผอ.สพค.สพฐ.
อนึ่ง เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 "เดลินิวส์ออนไลน์" รายงานข่าวว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดเผยกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้สำนักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดให้ครูเลือกเข้ารับการอบรมในหลักสูตรที่ได้รับการรับรองจากสถาบันคุรุพัฒนา โดยมีการจัดงบประมาณในการอบรม หรือคูปองให้ครูคนละ 10,000 บาทต่อปี ซึ่งที่ผ่านมามีครูสมัครลงทะเบียนเข้ารับการอบรมเป็นจำนวนมากและเกิดปัญหา การลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ไม่พร้อมรองรับความต้องการของครู และปัญหาอื่น ๆ ตลอดจนมีกระแสข่าวเกี่ยวกับเรื่องบริษัทจัดอบรม มีการทอนเงินให้แก่ใครก็ไม่ทราบนั้น
"สพค. ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ตนทราบเป็นระยะ โดยในส่วนของระบบลงทะเบียนรองรับนั้น ทางสพค.ได้มีการแก้ไขปัญหาเว็บไซต์ที่รองรับการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากการวางระบบลงทะเบียนทางออนไลน์ ที่ผ่านมาไม่คิดว่าครูจะให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยจากข้อมูลมีการลงทะเบียนเข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ เกือบ 6 แสนครั้ง โดยครูบางคนลงทะเบียนเข้ารับการอบรมเกือบ 40 หลักสูตร เหมือนลงเผื่อเลือกไว้ เพราะการให้คูปองเข้ารับการอบรม จะให้ตามปีงบประมาณ โดยให้ค่าอบรมทุกปี ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 นี้ เหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือน หากใครไม่ลงทะเบียนก็จะถูกตัด และไปเริ่มปีงบประมาณต่อไป เข้าใจว่าครูต้องการใช้สิทธิ์ที่ควรจะได้รับ
ทั้งนี้ สำหรับปีงบประมาณ 2560 ศธ.ได้จัดสรรงบประมาณเหลือจ่ายให้ สพฐ.ใช้ในการอบรมแล้วประมาณ 1,500 ล้านบาท รวมถึงยังอนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์เพื่อรองรับความต้องการของครูอย่างเต็มที่
สำหรับเรื่องเงินทอนนั้น หากเป็นความจริง ก็หลอกทั้งเรา คือสถาบันคุรุพัฒนาและหลอกทั้งครู ซึ่งข่าวที่ออกมาเป็นข้อมูลที่ดี เพราะแสดงว่าครูไม่เห็นด้วยกับเรื่องเงินทอน ถ้าเป็นเมื่อก่อน จะไม่รู้เลยว่ามีเงินทอน แต่ตอนนี้ ข้อมูลทุกอย่างจะเปิดเผยต่อสาธารณะ หากทางบริษัททอนเงินให้ครูที่ไปเข้ารับการอบรม เพื่อจูงใจให้ครูเลือกไปอบรมหลักสูตรของบริษัทนั้น ๆ ครูที่ได้รับการติดต่อก็แจ้งข้อมูลทันที ซึ่งนอกจากทางบริษัทจะโดนสถาบันคุรุพัฒนาขึ้นแบล็คลิสต์ หรือขึ้นบัญชีดำ และถอนชื่อออกจากการจัดอบรม อีกทั้งยังจะถูกแจ้งความดำเนินคดี ในฐานะให้ข้อมูลเท็จ เช่น ในโครงการเขียนว่าอบรมในราคาหนึ่ง แต่ไปติดสินบนครูให้มาลงทะเบียนอบรมอีกราคาหนึ่ง หากมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยด้วย"
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
27/7/2560
ที่มา เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 27 กรกฎาคม 2560