ชี้ถึงเวลาต้องปรับระบบการศึกษา รื้อระบบเก่า ทำระบบใหม่ให้เป็นไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติ เน้นผลลัพธ์พร้อมหาวิธีเติมคุณลักษณะและทักษะของเด็กไทย
วันนี้(3ก.ค.) จากการเสวนาเรื่อง"การขับเคลื่อนแผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2560 -2579 สู่การปฏิบัติ"ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อเร็ว ๆ นี้ รศ.ดร.บัณฑิตทิพากร รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.)กล่าวว่าสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วนของบ้านเราคือ ระบบการศึกษาซึ่งตอนนี้หลายประเทศได้เปลี่ยนระบบการศึกษากันไปแล้วโดยเขาจะพูดถึงผลลัพธ์การเรียนรู้เป็นหลักแต่ประเทศไทยยังไม่เคยพูดเลยว่าผลลัพธ์การเรียนรู้คืออะไรในแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับนี้เรามีแต่พูดว่าจะเติมเรื่องของคุณลักษณะและทักษะของเด็กไทย3R8Cซึ่งก็ต้องมาถามก่อนว่าจะเติมเข้าไปอย่างไร
"วันนี้เราตอบได้หรือไม่ว่าถ้าเด็กเรียนตั้งแต่ป.1ถึงป.4จบแล้วจะต้องทำอะไรเป็นบ้างและเรียนต่อไปจนถึง ป.6จะต้องทำอะไรเป็นบ้างจากนั้นเรียนต่อ ม.1ถึงม.3เมื่อจบม.3จะแยกเป็น2รางรางหนึ่งเป็นสายอาชีพอีกรางเป็นสายสามัญซึ่งตรงนี้เราจะตอบแต่ละช่วงอย่างไรและแต่ละจังหวัดหรือชุมชนต้องการอะไรที่แตกต่างดังนั้นประเด็นที่สำคัญคือต้องมีการกำหนดว่าเด็กที่จบแต่ละช่วงชั้นจะต้องทำอะไรได้บ้างโดยเราต้องพยายามให้เด็กของเราเป็นคนที่เรียนรู้ไม่ใช่เลียนรู้หรือลอกเขาอย่างเดียวฉะนั้นคงต้องมานั่งคิดกันว่าระบบการศึกษาของเราจะทำอย่างไร"รศ.ดร.บัณฑิตกล่าวและว่าการศึกษาวันนี้เด็กเรียนแล้วยังไม่รู้เลยว่าเค้าต้องการเป็นอะไรเราต้องให้สอบอย่างเดียวเพราะฉะนั้นประเด็นคือต้องรื้อระบบเก่าแล้วทำระบบใหม่ให้เป็นไปตามที่แผนการศึกษาแห่งชาติกำหนดโดยต้องมาคุยกันว่าการศึกษาบ้านเรามีอะไรเป็นจุดร่วมกลางซึ่งอาจจะกำหนดเลยว่าการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่ละช่วงจะเป็นอย่างไรอาชีวศึกษาแต่ละช่วงจะเป็นอย่างไรอุดมศึกษาจะเป็นอย่างไรต้องมีความชัดเจน แล้ว 3R8Cจะใส่เข้าไปอย่างไรและจะสอนอย่างไร
รองเลขาธิการกกอ.กล่าวอีกว่าการศึกษาจะต้องไม่แยกตัวเองจากหน่วยงานอื่นการศึกษาจะต้องอยู่กับชุมชนชุมชนก็สามารถที่จะผลิตกำลังคนซึ่งคนก็จะเข้าไปช่วยชุมชนและสังคมถ้าเป็นเช่นนี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจดีได้ดังนั้นถ้าทุกภาคส่วนร่วมมือกันจะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นประเทศไทยก็จะหลุดออกจากกับดักรายได้ปานกลางได้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2560 เวลา 12.33 น.