เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ ได้เผยแพร่ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ ที่ 339/2560 เรื่อง ผลประชุม ก.ค.ศ. 11/2560 โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญ ดังนี้
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2560 เมื่อวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2560 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะ และการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของข้าราชการครูเป็นอย่างมาก โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามที่สำนักงาน ก.ค.ศ. เสนอ
โดยมีหลักการที่สำคัญคือ ส่งเสริมให้ครูมีความชำนาญและมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอน มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ มีความสามารถ และสมรรถนะที่เหมาะสม ได้รับการเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หมวด 16 การปฏิรูปประเทศ มาตรา 258 ด้านการศึกษา (3) บัญญัติว่า “ให้มีกลไกและระบบการผลิต คัดกรองและพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูและคณาจารย์ ให้ได้ผู้มีจิตวิญญาณของความเป็นครู มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับความสามารถและประสิทธิภาพในการสอน รวมทั้งมีกลไกสร้างระบบคุณธรรมในการบริหารงานบุคคลของผู้ประกอบวิชาชีพครู” โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีคุณสมบัติครบหรือจะครบตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์ ว17/2552 ก.ค.ศ.ได้กำหนดบทเฉพาะกาล เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถยื่นคำขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์เดิมในช่วงเปลี่ยนผ่านได้ กล่าวคือ
1) ผู้ที่ดำรงตำแหน่งครู ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 และมีคุณสมบัติครบถ้วน
ได้ยื่นคำขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์ ว17/2552 ไว้ก่อนแล้ว และยังไม่ทราบผลการพิจารณา ต่อมาทราบผลการพิจารณา
- หากผลการพิจารณาอนุมัติ ให้สามารถยื่นขอเลื่อนวิทยฐานะถัดไป ในหลักเกณฑ์ ว17 ได้อีก 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีคุณสมบัติครบ
- หากผลการพิจารณาไม่อนุมัติ ให้สามารถยื่นขอเลื่อนในหลักเกณฑ์ ว17 ได้อีก 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้งมติ
ยังไม่ได้ยื่นคำขอ สามารถยื่นคำขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์ ว17/2552 ได้ภายใน 1 ปี
2) ผู้ที่ดำรงตำแหน่งครู และจะมีคุณสมบัติจะครบที่จะยื่นขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์ ว 17/2552 หลังวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 สามารถยื่นคำขอตามหลักเกณฑ์ ว17 ได้อีก 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ตนเองมีคุณสมบัติครบ
3) ผู้ที่บรรจุหลัง วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ให้ยื่นขอตามหลักเกณฑ์ใหม่
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้นำอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ จำนวน 59 อัตรา ไปกำหนดเป็นตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ในโรงเรียนหัวหิน เพื่อไปช่วยดูแลและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนวังไกลกังวล ซึ่งจัดการเรียนการสอนในระบบทางไกลผ่านดาวเทียมให้เต็มศักยภาพ และมีประสิทธิภาพ รองรับการขยายผลการถ่ายทอดการสอนทางไกล ไปสู่สถานศึกษาขนาดเล็ก จำนวน 15,369 แห่งทั่วประเทศ
ที่ประชุมยังได้รับทราบมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมครั้งที่ 16 พฤษภาคม 2560 ที่มีมติเห็นชอบการยกเว้นเงื่อนไขการจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยให้ ก.ค.ศ. จัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการครู เฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 คืนให้แก่โรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาส ที่มีนักเรียนจำนวนน้อยกว่า 120 คน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปกติแต่ประสบปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังครู จำนวนรวมทั้งสิ้น 241 แห่ง โดยจัดสรรอัตรากำลังครู รวมทั้งสิ้น 255 อัตรา ตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
--------------------------
ดรุวรรณ บุญมาก, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
กลุ่ม ปชส. สำนักงาน ก.ค.ศ.: ถ่ายภาพ
1/7/2560
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 1 กรกฎาคม 2560