ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ถอดรหัสผล “PISA 2015” พบเด็ก “ด้อยโอกาส-ยากจนไทย” มีคะแนนสูงระดับโลก


ข่าวการศึกษา 28 มิ.ย. 2560 เวลา 18:06 น. เปิดอ่าน : 14,002 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

ถอดรหัสผล “PISA 2015” พบเด็ก “ด้อยโอกาส-ยากจนไทย” มีคะแนนสูงระดับโลก

สสค.ชี้ยุทธศาสตร์สู่ประเทศไทย 4.0 ต้องปลดล็อกศักยภาพคนกลุ่ม “Bottom 40%”

สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับ ธนาคารโลก (World Bank) จัดแถลงข่าว “ถอดรหัสผล PISA 2015 เด็กด้อยโอกาส-ยากจน ความหวังที่คาดไม่ถึง สู่เป้าหมาย Thailand 4.0” หลังพบเด็ก “ด้อยโอกาส-ยากจนไทย” ส่วนหนึ่งมีคะแนนสูงระดับโลก แต่ยังขาดแรงหนุนจากภาครัฐ เสี่ยงสูญเสียคนเก่งระดับหัวกะทิของประเทศไปสู่ตลาดแรงงานไร้คุณภาพ สสค.ชี้ยุทธศาสตร์สู่ไทยแลนด์ 4.0 ต้องปลดล็อกศักยภาพคนกลุ่ม “Bottom 40%” ด้านธนาคารโลกระบุ ความสำเร็จต่างชาติพิสูจน์ชัด ไทยต้องเร่งลงทุนเรื่องการวิจัยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ดร.ภูมิศรัณย์ ทองเลี่ยมนาค นักวิจัยสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงข้อค้นพบใหม่ที่น่าสนใจจากการวิเคราะห์คะแนน PISA 2015 จากเกณฑ์ชี้วัดตัวหนึ่งของ OECD ที่เรียกว่า Resilient Student หรือเด็กกลุ่ม “ช้างเผือก” ที่พบกว่ามีเด็กจำนวน 30,300 คน ที่สามารถเอาชนะโชคชะตาของตนเองได้ แม้จะมีสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมยากจนที่สุดของประเทศ แต่สามารถทำคะแนนสอบได้สูงที่สุดในกลุ่ม 25% สูงสุดของโลก ผลประเมินเชิงลึกของ OECD พบว่า เด็กกลุ่มนี้มีทักษะการคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในยุค 4.0 มากกว่านักเรียนที่อยู่ในกลุ่มฐานะเศรษฐกิจสังคมเดียวกัน ถึง 3 ปีครึ่ง มากกว่านักเรียนกลุ่มเฉลี่ยของประเทศถึงเกือบ 3 ปี



“หัวใจสำคัญของการค้นพบนี้อยู่ที่การค้นหาคำตอบว่า ปัจจัยใดบ้างที่ส่งเสริมให้ เด็กช้างเผือกสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องฐานะและโอกาสทางการศึกษา มาเป็นกลุ่มนักเรียนที่มีคะแนนสอบ PISA สูงในระดับโลกได้ แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่เราค้นพบคือบทบาทของครู โดยจะเห็นว่าครูของเด็กกลุ่มช้างเผือกนั้น จะเป็นครูที่มีคุณสมบัติที่ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ มีกระบวนทัศน์แบบพระแสวง หรือ Growth Mindset ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมและทัศนคติในการเรียนรู้ของเด็กมาก และส่งผลต่อคะแนนของเด็กในกลุ่มนี้ด้วย โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงจากการศึกษาในครั้งนี้ก็คือ เด็กจำนวน 30,300 คนนี้กลับมีความคาดหวังกับอาชีพของตัวเองน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้พวกเขาไม่ได้มีโอกาสศึกษาต่อในสาขาอาชีพที่มีความถนัดและต้องการ บางส่วนจบ ม.3 ก็ออกสู่ตลาดแรงงานกลายเป็นผู้ใช้แรงงานด้อยทักษะ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับสังคมไทยที่ต้องสูญเสียคนเก่งที่มีศักยภาพไป”

ดร.ดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ด้านการพัฒนาทุนมนุษย์ ธนาคารโลก กล่าวว่า จากการศึกษาประเทศที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี พบว่าจะต้องมีแรงงานที่อยู่ในกลุ่มมาตรฐานสูง เพื่อไปทำงานด้านการวิจัยและพัฒนาจำนวน 7,000-8,000 คนต่อ 1 ล้านคน แต่ประเทศไทยมี 1,000 คนต่อ 1 ล้านคนเท่านั้น

“ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องลงทุนในด้านวิจัยและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มากขึ้น จากข้อมูลตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมา พบว่าประเทศที่รวยขึ้นมาก มีรายได้สูงขึ้นต่อเนื่องนั้นไม่มีประเทศไหนที่ไม่ลงทุนในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ดังนั้นเราจึงต้องลงทุนทั้งเรื่องของการการศึกษา การวิจัยและพัฒนามนุษย์ควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อแรงงานไทยจะมีทักษะและศักยภาพที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม สามารถทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางและก้าวไปสู่เป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 ได้” ดร.ดิลกะ ระบุ

ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้ช่วยผู้จัดการด้านวิจัยและนโยบาย สสค.กล่าวว่า เด็กที่มีปัญหาด้านการศึกษาของไทยส่วนใหญ่มาจากกลุ่มประชากรที่ยากจนที่สุดร้อยละ 40 ของประเทศหรือ Bottom 40% หากรัฐสามารถค้นหาและพัฒนาเด็กกลุ่มช้างเผือกและส่งเสริมปัจจัยบวกทางการเรียนรู้ให้กับเด็กกลุ่มนี้และกลุ่มยากจนคนอื่นๆ ไปพร้อมกัน จะทำให้เรามีแรงงานที่ทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์และการคิดวิเคราะห์ในระดับสูง เพิ่มมากขึ้น ตอบโจทย์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่เป็นคอขวดของแรงงานไทยในปัจจุบัน เพราะเรามีประชากรที่มีทักษะและศักยภาพขั้นสูงไม่เพียงพอ

“การที่ประเทศไทยจะก้าวไปสู่ยุค 4.0 ได้นั้น เราจะต้องพาคนทุกกลุ่มรวมไปถึงคนในกลุ่มนี้ที่มีจำนวนมากกว่า 28 ล้านคนไปให้ได้ โดยจะต้องลดความเหลื่อมล้ำและโอกาสทางการศึกษา ด้วยการปลดล็อกให้ทุกโรงเรียนมีคุณภาพที่ดี ภาคส่วนต่างๆ ต้องเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของเด็กช้างเผือกและคนกลุ่ม Bottom 40% ให้ถึงขีดสุดโดยเฉพาะเรื่องโอกาสทางการศึกษา ทั้งสายอาชีพและสายอุดมศึกษาที่มีคุณภาพ ไม่เช่นนั้นเราจะสูญเสียโอกาสจากศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวของคนกลุ่มนี้ไปอย่างมหาศาล ซึ่งการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กเยาวชนยากจนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 54 ก็เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่หนึ่งของรัฐบาลที่จะช่วยยกระดับศักยภาพของเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ได้ในอนาคต และส่งผลให้ประชากรกลุ่มนี้สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานที่มีทักษะขั้นสูงได้ ซึ่งหากประเทศไม่ปลดล็อกสิ่งต่างๆ เหล่านี้เราจะไม่มีวันก้าวไปถึงเป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 ได้เลย” ดร.ไกรยส กล่าวสรุป

 

คำบรรยายภาพ

ถอดรหัสผล “PISA 2015” พบเด็ก “ด้อยโอกาส-ยากจนไทย” มีคะแนนสูงระดับโลกถอดรหัสผล“PISA2015”พบเด็ก“ด้อยโอกาส-ยากจนไทย”มีคะแนนสูงระดับโลก

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567

การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 894 ☕ 5 พ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567
การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 894 ☕ 5 พ.ย. 2567

แนวทางการจัดทำเกียรติบัตรการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ปีการศึกษา 2567
แนวทางการจัดทำเกียรติบัตรการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 772 ☕ 4 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งผลการสมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียนอีโคสคูล ระดับต้น (Eco-School Beginner) รอบการสมัครปี 2567
สพฐ.แจ้งผลการสมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียนอีโคสคูล ระดับต้น (Eco-School Beginner) รอบการสมัครปี 2567
เปิดอ่าน 419 ☕ 4 พ.ย. 2567

ประกาศสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง รายชื่อศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สสวท.
ประกาศสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง รายชื่อศูนย์พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สสวท.
เปิดอ่าน 470 ☕ 4 พ.ย. 2567

การดำเนินการได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ปี พ.ศ. 2567
การดำเนินการได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 539 ☕ 4 พ.ย. 2567

สพฐ.มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้ง รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 101 ราย
สพฐ.มีคำสั่งย้ายและแต่งตั้ง รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 101 ราย
เปิดอ่าน 4,917 ☕ 2 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์
พื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์
เปิดอ่าน 12,682 ครั้ง

ภัยขนมถุงทำลายสุขภาพลูกรัก
ภัยขนมถุงทำลายสุขภาพลูกรัก
เปิดอ่าน 22,078 ครั้ง

ข้าวฮาง-ข้าวฮางงอก...ข้าวเพื่อสุขภาพ ภูมิปัญญาชาวอีสาน
ข้าวฮาง-ข้าวฮางงอก...ข้าวเพื่อสุขภาพ ภูมิปัญญาชาวอีสาน
เปิดอ่าน 1,698 ครั้ง

ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์
เปิดอ่าน 418,077 ครั้ง

7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
เปิดอ่าน 11,913 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ