รองนายกรัฐมนตรียันไม่ยุบ สมศ. ขอให้ปรับการทำงานใหม่ โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนมากขึ้น เผยกรกฎาคมนี้ เริ่มประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 ใช้หลักเกณฑ์ใหม่เน้นประเมินเพื่อแนะนำ ตามความเหมาะสมของแต่ละโรง และนำเทคโนโลยีช่วย
วันนี้ (27 มิ.ย.) พล.อ.อ ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มาอยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น จากนี้ สมศ.จะต้องปรับตัวในการทำงานใหม่ โดยเน้นความร่วมมือกับทุกภาคส่วนมากขึ้น ทั้งกับโรงเรียน ผู้บริหาร นักเรียน รวมถึง ศธ. โดยเฉพาะในการประเมินคุณภาพภายนอกและประเมินคุณภาพภายในที่จะต้องสอดคล้องกันมากขึ้น เพื่อให้การทำงานเป็นเนื้อเดียว ขณะเดียวกันศธ.จะต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าผลการจัดการศึกษาไม่ได้ตกต่ำอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน แต่ที่ผลออกมาว่าการศึกษาไทยตกต่ำเช่นนั้นอาจจะเป็นเพราะแนวทางการประเมินของภายในประเทศ กับ ต่างประเทศไม่สอดคล้องกัน ส่วนที่มีผู้เรียกร้องให้ยุบ สมศ.นั้น ยืนยันว่าไม่ยุบแน่นอน แต่ สมศ.ต้องปรับตัวเองใหม่
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อไปว่า ส่วนการประเมินภายนอกรอบ 4 นั้น จะเริ่มประเมินคุณภาพภายนอกได้ประมาณช่วงไตรมาสที่ 4 คือ เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะประเมินโรงเรียนที่สมัครใจเข้ารับการประเมินก่อน โดยจะใช้หลักเกณฑ์การประเมินใหม่ ที่เหมาะสมกับแต่ละโรงเรียน รวมทั้งจะเป็นการประเมินเพื่อให้คำแนะนำว่าโรงเรียนมีจุดบกพร่องตรงไหน ควรจะปรับปรุงเรื่องอะไร และจะต้องให้เวลาโรงเรียนในการปรับปรุง ไม่ใช้เกณฑ์กลางในการประเมินแบบเดียวกันทั่วประเทศเหมือนที่ผ่านมา และนำเทคโนโลยีมาช่วยในการประเมินมากขึ้น เพื่อลดภาระโรงเรียนในการเตรียมเอกสารต่าง ๆ อย่างไรก็ตามสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ผู้บริหาร สมศ.จะเข้าพบตนในฐานะที่กำกับดูแล สมศ. ซึ่งคงจะมาเล่าให้ฟังว่าถึงการเตรียมการดำเนินงานในการประเมินรอบใหม่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและดูว่าจะช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้แก่การศึกษาไทยอย่างไรบ้าง.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 27 มิถุนายน 2560 เวลา 15.36 น.