ทปอ.สรุประบบทีแคสเสนอ นายกฯ ยันเปิด-ปิดภาคเรียนตามเดิม อ้างทางรอดของประเทศ รับ หารือ”หมอธี”ปรับเวลาฝึกสอนนักศึกษาครู พร้อมตั้งคณะกรรมการ ช่าวยต่อยอดโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย -จีน
วันนี้(25 มิ.ย.) ที่มหาวิทยาลัยบูรพา(มบ.) ได้มีการประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ครั้งที่ 3/2560 โดยศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) ในฐานะประธาน ทปอ. กล่าวว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือ แอดมิชชั่น ประจำปีการศึกษา2560 ซึ่งภาพรวมพบว่าจำนวนที่นั่งเรียนมีมากกว่าจำนวนผู้สมัครเข้าเรียน เนื่องจากจำนวนเด็กที่อยู่ในช่วงจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมีจำนวนลดลง ดังนั้น ทปอ.จึงขอให้ทุกมหาวิทยาลัยไปวิเคราะห์ถึงสถิติดังกล่าว และปรับตัวทั้งปรับปรุงหลักสูตรและรูปแบบการรับให้เหมาะสม นอกจากนี้ ทปอ.ยังได้สรุปหลักการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง Thai university Central Admission System (TCAS) หรือ ทีแคส ซึ่งจะเริ่มปีการศึกษา 256เพื่อเสนอสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอทราบหลักการทีแคส และความแตกต่างระหว่างทีแคส กับระบบการรับนักเรียนในระบบเดิม
จศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงโครงการความร่วมมือรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีมติว่า ทปอ.จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ว่าทปอ.จะเป็นศูนย์กลางร่วมกับประเทศจีน โดยทปอ.จะตั้งคณะกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน โดยมหาวิทยาลัยสมาชิกของทปอ.ที่มีความรู้ความสามารถ หรือมีสาขาที่เกี่ยวข้องกับระบบราง และด้านอื่นๆ ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าว จะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ ลงสู่ภาคการผลิตและภาควิชาการ โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นตัวกลางในการยกระดับ พัฒนาหลักสูตร นักศึกษา ออกไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและต่อยอดให้โครงการนี้ยั่งยืน
ประธานทปอ.กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเปิดปิดภาคเรียนนั้น ยังไม่มีการหารือและต้องผลการวิจัย ทั้งนี้ สมาชิกทปอ.ส่วนใหญ่ยังยืนยันเปิดปิดภาคเรียนตามอาเซียน เนื่องจากมีประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยไทย นักศึกษา และทางรอดของการศึกษาไทยในอนาคต เพราะจำนวนนักศึกษาลดลงเรื่อยๆ ขณะที่มหาวิทยาลัยไทยมีศักยภาพและความเข้มแข็งในเรื่องของการหลักสูตร การวิจัยที่มาตรฐานระดับโลก ดังนั้น ในอนาคตต้องเติมเต็มด้วยนักศึกษาในภูมิภาคอาเซียน
ต่อข้อถามทางสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย(ส.ค.ศ.ท.) ขอให้ทปอ.ทบทวนมติการเปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียนอเนื่องจากมีผลกระทบช่วงเวลาในการฝึกสอนของนิสิตนักศึกษาครู ประธานทปอ.กล่าวว่า เรื่องการเปิด-ปิดภาคเรียนเป็นอำนาจของสภามหาวิทยาลัยที่สามารถดำเนินการได้ทันที แต่ทปอ.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในข้อกังวล ส.ค.ศ.ท.และเรื่องนี้ต้องหาให้ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ให้ไปช่วยดูในช่วงเวลาในการฝึกสอนที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ทปอ.จะหารือกับรมว.ศึกษาธิการ ถึงเรื่องดังกล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน 2560 เวลา 14.07 น.