"ชัยพฤกษ์" เผยระบบหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินคุณภาพการศึกษาใหม่อยู่ระหว่างรับฟังความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแนวให้สถานศึกษาประเมินตัวเอง ยึดตามกรอบที่ ศธ.กำหนด ไม่ใช่แนวของ สมศ. ลั่นไม่ใช่การตัดสินว่าใครได้ระดับไหน ผ่านหรือไม่ผ่าน แต่จะเป็นการประเมินเชิงพัฒนา เชื่อลดภาระให้โรงเรียน
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการแก้กฎกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยระบบหลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2553 ว่า ขณะนี้ ศธ.ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว และอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เป็นต้น ซึ่งเมื่อผ่านการรับฟังความเห็นแล้ว ก็จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม.เพื่อเห็นชอบและประกาศใช้ โดยจะใช้ทันทีในแนวประเมินคุณภาพภายนอกรอบที่ 4 สำหรับแนวทางการประเมินรูปแบบใหม่ตามกฎกระทรวง พ.ศ..... ดังกล่าว คือมาตรฐานที่จะใช้ในการวัดและประเมินผล สถานศึกษาจะเป็นผู้กำหนดเอง จากเดิมที่ตัวมาตรฐานจะกำหนดโดย สมศ. ซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้กรอบมาตรฐานที่ ศธ.กำหนดให้ ซึ่งจะมีจำนวนไม่มาก และเป็นไปในลักษณะเปิดกว้างให้ครอบคลุมบริบททุกกลุ่มโรงเรียน และเมื่อสถานศึกษากำหนดมาตรฐานของตนเองแล้ว ก็จะมีการประเมินตัวเอง โดยประเมินว่าสถานศึกษาของตัวเองทำได้ตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ มากน้อยอย่างไร จากนั้นให้รายงานผลมายังต้นสังกัด เพื่อที่จะเข้ารับการพิจารณา โดยต้นสังกัดจะร่วมกับ สมศ.จัดคณะผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ประเมิน ว่าแต่ละสถานศึกษาดำเนินการตรงกับมาตรฐานที่ประเมินตัวเองหรือไม่ ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญนอกจากจะทำหน้าที่ประเมินความถูกต้องแล้ว ยังจะเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่สถานศึกษาในด้านการพัฒนาด้วย
"การประกันคุณภาพรอบใหม่จะไม่ใช่การประเมิน เพื่อตัดสินว่าใครได้ระดับไหน ผ่านหรือไม่ผ่าน แต่จะเป็นการลงไปดูเชิงพัฒนา และมีผู้เชี่ยวชาญลงไปช่วยแนะนำ ซึ่งการประเมินก็จะเน้นข้อมูลเชิงคุณภาพ ไม่ใช่เน้นข้อมูลเชิงปริมาณ จากนี้การประเมินคุณภาพภายนอกก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้ประเมินจำนวนมาก โรงเรียนไม่ต้องเตรียมเอกสารที่จะให้คณะกรรมการประเมินเข้าไปตรวจ อีกทั้งจะไม่เป็นการดึงครูออกจากชั้นเรียนด้วย" ปลัด ศธ.กล่าว และว่า นอกจากนี้ในส่วนของ สมศ.เองก็ได้เริ่มกระบวนการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพภายนอกรอบที่ 4 กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และจะไปสร้างความเข้าใจในระดับพื้นที่ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 9 มิถุนายน 2560