ผอ.สมศ.คนใหม่แถลงนโยบายแนวทางจูงใจ"รร.-มหา'ลัย"เข้ารับการวัดคุณภาพ
"ผอ.สมศ." คนใหม่เปิดตัวแถลงนโยบายการทำงาน ยึดแนวทางประเมินแบบไม่ชี้ชะตาสถานศึกษา รายใดได้ผลประเมินดีมากจะต่อยอดการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ส่วนรายที่ได้ระดับปานกลางหรือยังไม่ดีพอ จะร่วมกับต้นสังกัดสนับสนุนการพัฒนาต่อไป เชื่อทำให้แต่ละสถาบันเต็มใจอยากเข้ารับการประเมิน ขณะเดียวกันก็จะมุ่งพัฒนาระบบให้ไปสู่มาตรฐานสากล
ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.) นางสาวณมน จีรังสุวรรณ ผู้อำนวยการ สมศ. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ตนได้เริ่มเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สมศ.เป็นวันแรก ซึ่งนโยบายการทำงานของตนนั้นจะยึดตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเร็วๆ นี้ ตนเตรียมที่จะเข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล สมศ. เพื่อหารือถึงนโยบายในการขับเคลื่อนการทำงานของ สมศ. จากนั้นก็จะเข้าพบ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) และผู้บริหารองค์กรหลัก ในฐานะที่เป็นเจ้าของสถานศึกษาที่ สมศ.จะต้องเข้าประเมิน เพื่อหารือและหาจุดร่วมในการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพภายนอก สำหรับวิสัยทัศน์ด้านการทำงานของตนมี 6 ด้าน คือ 1.บริหารด้วยความเรียบง่ายและด้วยใจ 2.ประเมินด้วยความพอเพียง ออกแบบตัวชี้วัดและประเมินตามความจำเป็น 3.ลดงานเอกสารด้วยเทคโนโลยี สมศ.อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบที่จะใช้ในการประเมิน ให้ผู้รับการประเมินสามารถเข้าถึงได้ง่าย และสะดวกกับผู้ใช้ 4.ประเมินด้วยความยืดหยุ่น จะยืดหยุ่นกับสถาบันการศึกษาทุกระดับ โดยในอนาคตจะมีการประเมิน 2 ระบบ คือ ประเมินเพื่อเข้าสู่มาตรฐานสากล ซึ่งตัวชี้วัดก็จะเป็นไปในรูปแบบสากลมากขึ้น และประเมินภายนอกระดับชาติ 5.ประเมินโดยการเชื่อมโยง และ 6.ประเมินด้วยความร่วมมือ การประเมินจะต้องร่วมกับสถานศึกษาต่อยอดจากการประเมินภายใน
"ที่ผ่านมาปัญหาของ สมศ. คือเรื่องการสร้างภาระให้สถาบันการศึกษามากเกินไป อีกทั้งกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินก็ยังมีปัญหา ดังนั้น ตัวบ่งชี้การประเมินภายนอกในเบื้องต้นจะต้องสอดคล้องกับตัวบ่งชี้การประเมินภายใน และต่อยอดการประเมินภายในในเชิงบวก และสถานศึกษาที่ผ่านการประเมินในระดับดีมาก สมศ.ก็จะมีการกำกับมาตรฐานให้ ส่วนในกลุ่มสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินน้อยหรืออยู่ในระดับปานกลาง สมศ.ก็จะร่วมกับหน่วยงานต้นสังกัดสนับสนุนและพัฒนาต่อไป ซึ่งจากการดำเนินงานทั้งหมด ดิฉันเชื่อว่าจะสามารถทำให้สถานศึกษาอยากเข้ารับการประเมิน อีกทั้งยังเป็นการลดภาระ ลดเวลาเยี่ยม รวมถึงสอดคล้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ด้วย" ผอ.สมศ.กล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยโพสต์ วันที่ 8 มิถุนายน 2560