“มงคลกิตติ์”จี้"หมอธี"ล้มสรรหา"รองศธภ."ชี้ขัดหลักธรรมาภิบาล ส่อล็อกสเปก ไม่เปิดกว้าง ผู้สมัครน้อยราย สมัครข้ามภาคไม่ได้ หวัน!ซ้ำรอยสรรหาเลขา สกสค.-คุรุสภา
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช) นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ ส่งผู้แทนไปยื่นหนังสือถึง นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กรณี การสรรหารองศึกษาธิการภาค เนื่องด้วย ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช) ได้รับร้องเรียนจาก ผู้ที่ไม่สามารถสมัครเข้ารับการสรรหาดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งทาง ภตช.ก็ได้ตรวจสอบเบื้องต้นของการออกประกาศคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(รองศึกษาธิการภาค หรือ ศธภ.) ลงวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ในข้อ 3.คุณสมบัติของผู้สมัคร
1.เป็นผู้ดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ประเภทอำนวยการ ระดับสูง หรือ ศึกษาธิการจังหวัด อยู่ก่อนวันที่มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน 2560 ใช้บังคับ(ทั้งนี้ความหมายของตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง และ ศึกษาธิการจังหวัด ให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค เรื่อง คำวินิจฉัยคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ลงวันที่ 7 เมษายน 2560)
“จะสังเกตว่า ผู้ที่จะสมัครได้มีจำนวนจำกัด อาทิ ศึกษาธิการจังหวัด เท่านั้น ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวจะต้องดูแลครูสังกัด สพฐ ในระดับ อนุบาล-ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา จำนวนกว่า 4.5 แสนคน อีกทั้งจำนวนผู้สมัครในตำแหน่ง รองศึกษาธิการภาค มีจำนวนน้อยราย อีกข้อหนึ่งก็คือ การรับสมัครสรรหา รองศึกษาธิการภาค ครั้งนี้ จะไม่มีการสมัครข้ามภาคในศึกษาธิการจังหวัดในภาคนั้นๆ ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะปกติจะต้องเป็นการรับสมัครในภาพรวมแล้วขึ้นบัญชีตามลำดับคะแนน”นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า อาทิ รองศึกษาธิการภาค 1 มี 3 ราย ,รองศึกษาธิการภาค 2 มี 3 ราย,รองศึกษาธิการภาค 4 มี 3 ราย,รองศึกษาธิการภาค 6 มี 2 ราย,รองศึกษาธิการภาค 7 มี 2 ราย,รองศึกษาธิการภาค 8 มี 2 ราย,รองศึกษาธิการภาค 9 มี 3 ราย,รองศึกษาธิการภาค 10 มี 2 ราย,รองศึกษาธิการภาค 13 มี 4 ราย,รองศึกษาธิการภาค 14 มี 2 ราย,รองศึกษาธิการภาค 15 มี 2 ราย,รองศึกษาธิการภาค 17 มี 3 ราย
สรุป สมัคร 2 ราย จำนวน 6 ภาค คิดเป็น 50% , สมัคร 3 ราย จำนวน 5 ภาค คิดเป็น 41.167%,สมัคร 4 ราย จำนวน 1 ภาค คิดเป็น 8.3%,ทำให้การสมัคร รองศึกษาธิการภาค มีลักษณะการสมัครคล้ายการสมัครสรรหา เลขาธิการ สกสค. และ เลขาธิการคุรุสภา ซึ่ง นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งล้มไป เพราะมีผู้สมัครน้อยราย การประกาศอาจจะล๊อกสเป็คเฉพาะผู้สมัครบางรายจึงไม่ชอบด้วยกฏหมาย
ข้อสังเกตแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมีธรรมาภิบาลในการสมัครเข้ารับการสรรหาเป็น รองศึกษาธิการภาค(รอง ศธภ.) คือ ควรมีการเปิดกว้างให้สมัครเข้ารับการสรรหาได้ กับ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา-มัธยมศึกษา ประเภท เชี่ยวชาญ ระดับ 9 กว่า 20 ราย , ผู้อำนวยการโรงเรียน ประเภท เชี่ยวชาญ ระดับ 9 กว่า 60 ราย, ผู้อำนวนการสำนักงานศึกษาเอกชนระดับจังหวัด-ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.ระดับจังหวัด ประเภท เชี่ยวชาญ ระดับ 9 และ ผู้อำนวยการสำนัก ประเภท เชี่ยวชาญ ระดับ 9 ใน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน .สภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการศึกษาเอกชน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีจำนวนกว่า 200 ราย
“ดังนั้น ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช) จึงเรียนมายัง นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ตรวจสอบ และ ทบทวนแก้ไขการออกประกาศคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(รองศึกษาธิการภาค) ว่าอาจจะปิดกั้นไม่เปิดกว้างซึ่งอาจจะขัดหลักธรรมาภิบาล มีผู้สมัครจำนวนน้อยรายผิดปกติ และ ไม่มีการสมัครข้ามภาคกันซึ่งผิดปกติ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะการที่จะปกครอง ครูกว่า 4.5 แสนคนได้นั้น จะต้องมีความยุติธรรม ตรวจสอบได้ ตอบคำถามได้ ให้ความเสมอภาค เป็นธรรม กับ ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเท่าเทียมกัน การบริหารราชการแผ่นดินจะไม่วุ่นวายเพิ่มปัญหา เหมือนที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้”นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก วันที่ 5 มิถุนายน 2560