เดี๋ยวนี้ ใครๆ ก็นิยมดูหมอดูกัน ไม่เฉพาะในเมืองไทย แม้ในต่างประเทศก็ยังนิยมหมอดู ใครที่สามารถทำนายทายทักได้น่าเชื่อถือ ก็จะมีลูกศิษย์ลูกหาเยอะแยะ เรียกว่ายึดเป็นอาชีพหลักได้เลย แถมดีไม่ดี รวยเป็นสิบล้าน ร้อยล้านเสียอีก คนที่ไปดูหมอดู ไม่ใช่เฉพาะคนระดับล่างเท่านั้น คนที่มีการศึกษาสูงๆ หรือคนที่อยู่ในระดับผู้นำ ก็ยังไปดูหมอดู จนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่บ่อยๆ
ถ้าเราจะมาหาเหตุผลที่คนนิยมดูหมอกัน เล่นๆ ว่าเพราะอะไร ลองช่วยกันคิดนะครับ
1. อยากรู้อนาคตที่ยังมาไม่ถึง เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าทางเดินข้างหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง จะดีขึ้น เท่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า สิ่งที่ตั้งใจ วางแผนไว้จะเป็นไปตามที่หวังหรือเปล่า ความรักจะราบรื่นไหม การงานจะดีหรือเปล่า การเงินจะเพิ่มพูน สุขภาพจะเป็นอย่างไร กับคนรักจะไปกันรอดหรือเปล่านะ หรือไม่ก็ จะเจอคนถูกใจไหมนะ
2. ความทุกข์ที่กำลังเผชิญ เกิดเป็นมนุษย์ ไม่ว่ายากดีมีจน ล้วนแต่มีความทุกข์ อย่าคิดว่าคนจนเท่านั้นนะครับ ที่เป็นทุกข์ อย่าคิดว่าคนระดับล่างเท่านั้นนะที่ทุกข์ทน คนไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด ไม่ว่ายากดี มีจน คนหล่อ คนสวย คนรวย หรือคนจน ขี้เหร่ หรือไม่ก็ตาม ล้วนต่างมีความทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น น่าคืดนะ ดูอย่างดารากลุ่มคนหล่อคนสวย รวยด้วย ยังนิยมดูหมอ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี แม่ทัพนายพล ยังมีหมอดูประจำตัว และก็นิยมไปปรึกษาเวลามีปัญหามีความทุกข์ ความทุกข์ทีทำให้คนพึ่งหมอดู ก็มีหลาย ประการ เช่น เรื่องการเงิน การงาน ความรัก สุขภาพ ศัตรู ครอบครัว
3. ขอคำปรึกษา บางที มีเรื่องต้องเลือก ต้องตัดสินใจ ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี ไม่แน่ใจ เลยไปพึ่งหมอดูดีกว่า ว่าจะเลิอกใครดี จะทำอะไรดี จะขึ้นเหนือหรือว่าลงใต้ คนเราลงว่าเชื่อแล้ว หมอบอกอะไรก็มีแนวโน้มเชื่อไว้ก่อน อย่างน้อยก็สบายใจ ที่ตัดสินใจ หากมันไม่ดี ก็จะได้โทษหมอดูงัยล่ะ ฮ่า ฮ่า
4. ไปขอหวย ขอโชคลาภ บางคน ก็ไปหาหมอดู เพื่อขอหวยรวยเบอร์ อยากรวย ไปหาเทคนิค การแก้เคล็ดต่างๆ เพื่อทำให้โชคดี ร่ำรวย ๆๆ
5. ไปหาหมอดู เพราะอยากรู้เรื่องของคนอื่น ที่เกี่ยวข้องกับเรา
6. ไปหาหมอดูเพื่อหาทางแก้ปัญหาบางประการ หรือเพื่อขอข้อแนะนำ เกี่ยวกับการซื้อบ้าน ที่ดิน รถ ฯ
7. ไปหาหมอดู เพื่อติดต่อหรือถามเรื่องราวที่ลี้ลับ คนที่ตายไปแล้ว หรือเทพ เทวดา ที่มองไม่เห็น
คงยังมีเหตุผลอีกมากมาย ที่ยังกล่าวไม่หมด ใครนึกออก ก็เติมเต็มได้นะครับ
แล้วเราได้อะไรจากหมอดูบ้าง ก็มีทั้งในแง่ที่ดี และไม่ดี ขึ้นอยู่กับระดับสติปัญญา ของแต่ละคน
1. ดูแล้วสบายใจ เพราะอย่างน้อยก็ได้ระบายความทุกข์ ปัญหา ความกังวลใจออกไปบ้าง ยิ่งถ้าหมอดูทักทายในด้านที่ดี ซึ่งส่วนใหญ่หมอดู ก็จะไม่ทักทายอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ
2. ได้แนวทางในการตัดสินใจ ในสิ่งที่จะทำต่อไปข้างหน้า
3. ดูแล้ว เกิดสติ อาจจะรู้ข้อผิดพลาดของตนเอง คนเราใครว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้ แม้แต่พ่อแม่ แต่แปลกที่หมอดูว่าไม่เห็นโกรธ แถมยอมรับ แถมหัวเราะ และหลายคนก็ยอมเปลี่ยนตามที่หมอดูแนะนำ
4. มีกำลังใจดีขึ้น เพราะอย่างน้อยก็มีทางออก ทุกปัญหามีทางออกเสมอ บางทีการที่หมอดูบอกว่า ดวงจะตกไปอีก 5 เดือน คนนั้นสามารถทนกับภาวะย่ำแย่ได้ เพราะเขาเชื่อว่า อีกไม่นานดวงก็จะดีขึ้น
ส่วนข้อเสีย ในการดูหมอก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน อาทิเช่น
1. ดูแล้วไม่สบายใจ อาจเป็นเพราะเป็นคนวิตกจริต คิดมากอยู่แล้ว หากหมอดูทักในทางที่ไม่ค่อยจะดี ก็จะยิ่งพาคิดมากไปกันใหญ่ แทนที่จะสบายใจ
2. ดูแล้วเสียเงินเสียทอง ซ้ำเติมไปอีก โดยเฉพาะคนที่มีฐานะไม่ค่อยจะดี ถ้าเจอหมอดูแนะนำให้ไปทำพิธีกรรมต่างๆ ที่จะแก้ไขดวงชะตา ยิ่งเจอหมอดูที่ไม่ดี หลอกลวงเพื่อจะหาผลประโยชน์ ก็อาจหมดเนื้อหมดตัวได้
3. ดูแล้ว ทำให้โง่ขึ้น เพราะบางครั้งหมอดูไม่เก่งจริง ทักทายไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ทั้งที่ความจริงบางเรื่องเราน่าจะเข้าใจดีกว่าหมอดู ทำนายเองยังแม่นกว่าหมอดู แต่กลับให้หมอดูทำให้เขว คนที่เชื่ออะไรง่ายเกินไป ก็จะยิ่งทำให้การดูหมอ สร้างปัญหายิ่งกว่าไม่ดูเสียอีก
4. การที่หมอดูแนะนำเรื่องที่ไม่สมเหตุผล เช่นการเปลี่ยนชื่อ ลายเซ็นต์ สีรถ สีบ้าน หย่ากัน ย้ายถิ่น ฯลฯ ก็อาจมีผลกระทบตามมา มากบ้างน้อยบ้าง
สรุปแล้ว จะห้ามคนไม่ให้ไปดูดวง ก็คงจะไม่ได้ แต่ขอให้มีสติ ใช้วิจารณญาณให้ดีๆ อย่าเชื่ออะไรง่ายเกินไป จนกลายเป็นเหยื่อ ถ้าไปดูแล้วสบายใจ ชีวิตดีขึ้น ก็ไปเถอะ แต่ถ้าไปแล้ว ก็ไม่เห็นจะดีอะไร ยิ่งดูยิ่งแย่ ก็ให้พิจารณา หมอดูดีๆ หมายถึงจริงใจ ไม่หลอกลวง ก็มี ซึ่งก็ทำหน้าที่คล้ายจิตแพทย์ รักษาความทุกข์ทางใจ ก็พอมีประโยชน์บ้าง
แต่ถ้าเจอหมอที่ไม่ดี คิดหลอกลวง ก็ให้ระวัง อย่าคิดว่าหมอดังๆ ค่าตัวแพงๆ จะดีเสมอไป บางทีหมอดูแม่นๆ ดูฟรี ก็มีเยอะ แถมสบายใจอีกด้วย เพราะอย่างน้อยก็ไม่ได้หลอกอะไรจากเรา
สุดท้าย เคยสังเกตหรือไม่ ว่าเราน่ะ ถ้าลองเป็นหมอดู ให้ตัวเองน่ะ จะแม่นกว่าหมอดูคนไหนๆ ในโลกอีก เพราะไม่มีใครเข้าใจ รู้จัก ตัวเราเท่า เราเอง แต่ที่เราไม่เชื่อตัวเองเพราะ ความกลัว ความทุกข์ที่เกาะกินใจ ความไม่มีสติ ความโลภ ความหลง ความอ่อนแอ พึ่งตนเองไม่ได้ ตนจึงไม่อาจเป็นที่พึ่งแห่งตน หมอดูจึงต้องเป็นที่พึ่งแห่งเรา ต่อไป อาเมนก็มีด้วยประการฉะนี้
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
