นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2560 เมื่อวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2560 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ดังนี้
● รับทราบความคืบหน้าการจัดทำมาตรฐานตำแหน่ง และหลักเกณฑ์ใหม่ในการประเมินวิทยฐานะ
● รับทราบการรายงานผลการสอบแข่งขันครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ.
● เห็นชอบการปรับเกณฑ์การคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) สายงานนิติกร
รายละเอียดเนื้อหาข่าว มีดังนี้
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2560 เมื่อวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2560 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้า (ร่าง) มาตรฐานตำแหน่งและหลักเกณฑ์ใหม่ในการประเมินวิทยฐานะ ผลการสอบแข่งขันครูผู้ช่วย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และเห็นชอบหลักเกณฑ์ให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ สายงานนิติกร
● รับทราบความคืบหน้าการจัดทำมาตรฐานตำแหน่ง และหลักเกณฑ์ใหม่ในการประเมินวิทยฐานะ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวว่า จากการที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้ดำเนินการจัดทำ (ร่าง) มาตรฐานตำแหน่ง มาตรฐานวิทยฐานะ หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะข้าราชการครู โดยได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณาร่างดังกล่าว จำนวน 5 ครั้ง พร้อมนำเสนอ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวิทยฐานะและนโยบายและระบบบริหารงานบุคคล ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) มาตรฐานตำแหน่ง มาตรฐานวิทยฐานะ ตลอดจนหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะ ตัวชี้วัด และ (ร่าง) บทเฉพาะกาลนั้น ถือว่าเป็นการดำเนินงานที่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการปรับปรุงบทเฉพาะกาลที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ดังนั้น จึงขอชื่นชมการดำเนินงานของสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่มีส่วนสำคัญในการสื่อสารและสร้างการรับรู้ให้สังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้น ซึ่งประเด็นที่กระทรวงศึกษาธิการถูกกล่าวหา ณ ตอนนี้ ล้วนเกิดจากความไม่เข้าใจและการสร้างการรับรู้ยังไม่ทั่วถึงเพียงพอ
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ. จะได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการประเมินวิทยฐานะใหม่ ผ่านทางเฟสบุ๊กและเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ค.ศ. (www.otepc.go.th) พร้อมเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของส่วนราชการต่าง ๆ ในระหว่างวันที่ 20-31 พฤษภาคม 2560
นอกจากนี้ ได้เตรียมจัดให้มีการประชาพิจารณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2560 เพื่อรับฟังความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ความเหมาะสมของจำนวนชั่วโมงในการปฏิบัติการสอน 800 ชั่วโมง/ปี, ความยืดหยุ่นของการจัดการเรียนการสอนตามสังกัด หรือสาขาวิชาเอก (พลศึกษา/นาฏศิลป์) หรือตามความยุ่งยากของการสอน, ความเหมาะสมของระยะเวลาจำนวน 5 ปี ในการก้าวไปสู่แต่ละวิทยฐานะทุกวิทยฐานะ, การพัฒนาก่อนแต่งตั้งทุกวิทยฐานะ, ความเหมาะสมของบทเฉพาะกาล ที่กำหนดให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูก่อนประกาศใช้หลักเกณฑ์ฯ ยังคงมีสิทธิ์ขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์ ว17/2552 เป็นการเปิดช่องให้ใช้บทเฉพาะกาลฉบับเก่าได้ เพื่อไม่ให้กระทบกับคนที่มีสิทธิ์ตามระเบียบเดิม เป็นต้น
จากนั้น จะนำผลจากการรับฟังความคิดเห็นมาปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะใหม่ เพื่อนำเสนอ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับนโยบายและระบบบริหารงานบุคคลให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาให้ความเห็นชอบภายในเดือนมิถุนายน 2560 พร้อมประกาศใช้ให้ทันวันที่ 5 กรกฎาคม 2560
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงประเด็นการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบางตำแหน่ง บางวิทยฐานะ ตามมาตรา 80 ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ที่กำหนดให้มีการอบรมแบบเข้ม จำนวน 180 ชั่วโมง หรือจำนวน 60 ชั่วโมงตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ. กำหนด ว่าที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยเสนอให้มีการปรับปรุงรูปแบบการพัฒนาด้วยวิธีการที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่น แต่ยังคงตอบโจทย์สมรรถนะการทำงานตามมาตรฐานที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตามระบบ Professional Learning Community (PLC) หรือชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ, การพัฒนาตามหลักสูตรคุรุพัฒนา, การพัฒนาด้วยระบบพี่เลี้ยง โดยผู้พัฒนาเป็นผู้เลือก, การฝึกงาน ฝึกประสบการณ์, การอบรมแบบเข้มข้น เป็นต้น
ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ. นำเสนอ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการเพื่อดำเนินการต่อไป
● รับทราบการรายงานผลการสอบแข่งขันครูผู้ช่วย สพฐ.
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบผลการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ครั้งที่ 1/2560 ซึ่งมีผู้เข้าสอบแข่งขัน จำนวน 186,638 คน เพื่อบรรจุเป็นครูผู้ช่วยในตำแหน่งที่ว่าง 6,437 อัตรา (กศจ. 6,370 อัตรา สศศ. 67 อัตรา) สรุปดังนี้
- ผู้สอบแข่งขันได้ จำนวน 29,242 คน คิดเป็นร้อยละ 15.67 ของจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมด แบ่งเป็น กศจ. 29,098 คน (ร้อยละ 99.50) และ สศศ. 144 คน (ร้อยละ 0.5)
- กลุ่มวิชาที่ไม่มีผู้สมัครสอบ คือ กลุ่มวิชาภาษาเขมร (กศจ.สุรินทร์)
- กลุ่มวิชาที่มีผู้สมัครสอบเพียงคนเดียว แต่ไม่มีสิทธิ์สอบ คือ กลุ่มวิชาพยาบาลศาสตร์ (กศจ.เพชรบุรี)
- กลุ่มวิชาที่ไม่มีผู้สอบแข่งขันได้ มีจำนวน 3 กลุ่มวิชา ได้แก่ กลุ่มวิชาภาษาพม่า (กศจ.ตาก) กลุ่มวิชานาฏศิลป์ (โขน) (กศจ.เพชรบุรี) และกลุ่มวิชาพุทธศาสนา (กศจ.นราธิวาส)
● เห็นชอบการปรับเกณฑ์การคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) สายงานนิติกร
ที่ประชุมเห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในสายงานนิติกร ให้ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งนิติกร (พ.ต.ก.) ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.5/ว10 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2553
โดยปรับปรุงคุณสมบัติด้านการผ่านหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ ตามระดับการดำรงตำแหน่ง และกำหนดระยะเวลาการปฏิบัติงานด้านกฎหมายในกรณีขอรับ พ.ต.ก. ในอัตราที่สูงขึ้น โดยต้องมีระยะเวลาการปฏิบัติงานด้านกฎหมายในระดับตำแหน่งที่จะขอรับ พ.ต.ก. เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี
------------------------
นวรัตน์ รามสูต, ดรุวรรณ บุญมาก, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงาน ก.ค.ศ.: ถ่ายภาพ
19/5/2560
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 19 พฤษภาคม 2560