ฉันมักจะพูดถึงเรื่องทัศนคติบวกอยู่เสมอๆ ในเวลาจัดสัมมนา ว่าเราต้องมีทัศนคติบวกร้อยเปอร์เซนต์ ในทุกๆ เรื่อง ในทุกๆ สถานการณ์ เพราะการคิดลบ แม้เพียงนิดเดียวก็จะลามไปเหมือนเซลล์มะเร็ง ที่ก่อตัวมาจากกลุ่มเซลล์ และกระจายไปทั่วอวัยวะ
ฉันจะบอกเสมอว่า การฝึกมองโลกในแง่ดี หรือการมีทัศนคติเชิงบวก เป็นสิ่งสำคัญของการต่อสู้เพื่อประสบความสำเร็จ คนส่วนใหญ่ชอบคิดลบๆ ชอบบ่น ชอบท้อแท้ต่อปัญหาและอุปสรรคในชีวิต ไม่ว่าเราจะเจอะเจออะไรก็ตาม เรายังคงต้องคิดไปในทางที่ดีอยู่เสมอ
แต่วันนี้ฉันอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ใช้คำว่า การคงทัศนคติบวกไว้เสมอ ฉันรู้สึกว่ามันถูกต้องมากกว่า ที่จะพูดว่าคิดบวกร้อยเปอร์เซนต์ ที่ฉันพูดจนติดปาก เพราะว่า คนส่วนใหญ่ก็รู้ดีว่าต้องคิดบวก และก็พยายามคิดบวก ตามที่ได้รับคำบอกกล่าวมา จากคนที่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อพวกเขาลงมือทำ และเจอะเจอกับความล้มเหลว ความผิดหวัง ปัญหา หรืออุปสรรค หรือเรื่องที่เลวร้าย ความท้อแท้ ก็จะเข้ามาแทนที่ และพาเพื่อนความคิดลบเข้ามาอีกมากมาย
การแนะนำให้ คงความคิดบวก ไว้เสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จึงเป็นคิดที่สำคัญกว่า การสอนให้คนคิดบวกเพียงอย่างเดียว เพราะที่จริงแล้ว สิ่งที่คนสำเร็จทุกคนต้องทำก็คือ รักษาความคิดให้เป็นบวกอยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางความยุ่งยาก ท่ามกลางความผิดหวัง ท่ามกลางปัญหา ท่ามกลางอุปสรรค ท่ามกลางความล้มเหลว
ที่จริงแล้วไม่ว่าคนสำเร็จหรือคนทั่วไป ต่างก็ต้องต่อสู้กับความล้มเหลวเช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงแต่ว่า ความล้มเหลวของคนล้มเหลวคือ ความพ่ายแพ้ ท้อแท้ สิ้นหวัง และล้มเลิก ส่วนคนสำเร็จ ความล้มเหลว เป็นเพียงแค่ โจทย์ที่ทดสอบ ปัญหาที่ต้องแก้ไข บทเรียนที่ต้องเรียนรู้ และสุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นมาใหม่
สิ่งที่สำคัญและต้องทำให้ได้คือ รักษาความคิดบวก ไว้อยู่เสมอ ตราบใดที่ยังปลุกใจให้คิดบวกได้ ตราบนั้นความสำเร็จยังรอคอยเราอยู่เสมอ ขอให้อดทนจนกว่าจะสำเร็จ แล้วเจอกันที่จุดสูงสุด คือ ยอดเขาแห่งความสำเร็จนะครับ ผมล่วงหน้าไปก่อนนะ แล้วเจอกัน........