เมื่อวานได้อ่านหนังสือ เรื่อง IMS( Idea Marathon System ) เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ของคุณฮิกูชิ พี่แกคิดอะไรได้ก็จดไปเรื่อย วันหนึ่งได้ตั้ง 64 ความคิด ปีหนึ่งได้เป็นหมื่นๆ หลายปีก็เป็นแสนๆ ความคิด ที่จริงผมก็เป็นคนที่คิดอะไรใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ แต่ไม่เคยจด เว้นแต่ความคิดที่เจ๋งจริงๆ โชคดีที่เจอหนังสือเล่มนี้ ต่อไปนี้รู้แระว่าต้องจดมันลงไป หากทำจนชำนาญ ก็จะกลายเป็นคนความคิดกระฉูด ไม่ใช่คนคิดเรื่อยเปื่อย คิดไปเรื่อย
ที่จริงคนที่ความคิดไหล คิดอะไรต่ออะไรไปเรื่อย มีโลกจินตนาการสูง เป็นสิ่งที่ดีพิเศษ เราควรจะส่งเสริมคนไทยให้ฝึกคิดเช่นนี้ เพราะความคิดเป็นแหล่งของแรงบันดาลใจ เป็นแหล่งกำเนิดของนวัตกรรมใหม่ๆ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ ล้วนมาจาก ความคิดสร้างสรรค์ของคนทั้งนั้น แต่พวกฝรั่ง ญี่ปุ่น เกาหลี เค้าจะเก่งเรื่องพวกนี้มากกว่า คนไทย
อาจเป็นเพราะคนไทย ไม่ค่อยฝึกคิด คนไทยเก่งแต่เดินตามก้น คิดตามเค้า เรียนตามฝรั่ง แม้แต่พวกด๊อกเตอร์ ไปเรียนเมืองนอกเมืองนา กลับมาก็พาคนไทยเดินตามก้นฝรั่งเป็นแถว กลายเป็นว่าคนไทย ไม่ค่อยชาตินิยม ไปนิยมฝรั่ง นิยมญี่ปุ่นเกาหลี ต่อไปอาจนิยมลาว เวียดนาม เขมร ก็ได้ ใครจะไปรู้
ดังนั้นจึงอยากให้คนไทย ฝึกที่คิดอะไรใหม่ๆ ฝึกจดบันทึกความคิด ที่ปล่อยให้มันหลั่งไหลออกมา คุณฮิกูชิ เค้าบอกว่า ในหนึ่งวันจะมีความคิดดีๆ ประมาณ 1 - 2 ความคิด จาก 60 ความคิด และความคิดดีๆ อาจเป็นเงินเป็นทองก็ได้
ที่ผมชอบมาก ก็คือ การคิดเรื่องอื่นๆ เรื่องที่ไม่ใช่แวดวงประจำ เรื่องที่ไม่ได้ถนัด เพราะบางครั้งเราก็อาจได้ความคิดอะไรที่มันประหลาดและเจ๋งกว่า คนที่อยู่ในงาน คิดเองเสียอีก เพราะเรานอกกรอบกว่า อิอิ
ผมมีความคิดทางธุรกิจ อันหนึ่ง ตามความคิดของผมแล้ว มันแจ๋วมาก พระเจ้าจอร์จยังต้องตะลึง ต้นปีหน้า ผมจะเข็นความคิดอันนี้ออกมาเป็นธุรกิจแนวใหม่ของเมืองไทย แล้วขยายไปทั่วโลก เพราะผมคิดออกเป็นคนแรกของโลก บางที ความคิดสร้างสรรค์ ถ้าจับให้มั่น อาจจะทำให้คนหนึ่ง ประสบความสำเร็จสูงเกินกว่า ที่ใครจะนึกเสียอีกด้วยนะ ถ้าวันหนึ่งผมจะร่ำรวยมีชื่อเสียง ไปทั่วโลก ถึงตอนนั้นคงรวยกว่าทักษิณเนอะ อย่างอิจฉาละกัน เพราะผมบอกคุณแล้วว่า ให้ฝึกคิดเรื่อยเปื่อย แล้วจดมันไว้ ทำให้ชำนาญ สร้างโลกจินตนาการ แล้วทำฝันให้เป็นจริง โอเค....ไปละ ขอไปล่าฝันต่อนะครับ
คุณเกรียง