นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรมว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 62/2559 เรื่องการปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่ง ชาติ และได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรด้านวิจัยและนวัตกรรม มอบให้ตนเป็นประธาน จึงได้หารือถึงกรอบและทิศทางในการพัฒนาบุคลากร ซึ่งตนต้องการให้แผนเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งต้องเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ คือ คนที่จะเข้ามาเป็นนักวิจัย นักสร้างนวัตกรรมจะมาจากส่วนใด จะสร้างอย่างไร และมีวิธีดึงดูดคนเหล่านี้อย่างไร รวมถึงต้องสำรวจความจำเป็นและขับเคลื่อนอย่างเหมาะสม ระยะกลางน้ำ คือแผนพัฒนาผู้ที่เป็นนักวิจัย นักสร้างนวัตกรรมอยู่แล้ว ทั้งของภาครัฐและเอกชน ให้มีความสามารถและศักยภาพเพิ่มขึ้น และระยะปลายน้ำคือ วิธีการรักษาบุคลากรเหล่านี้ อาทิ ค่าตอบแทน ซึ่งคาดว่าในเดือน ส.ค.นี้ แผนการดำเนินการก็จะแล้วเสร็จ
“หลักการแผนนี้จะเน้นให้การขับเคลื่อนทุกอย่างเดินไปด้วยกัน ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งแผนทุกอย่างประเทศเรามีหมดแล้วแต่จะทำอย่างไรให้มีการปฏิบัติจริงเกิดขึ้น และในที่ประชุมภาคเอกชนก็ได้เสนอเรื่องการสร้างบุคลากรที่จะรองรับอุตสาหกรรมขั้นสูง ที่จะทำให้ประเทศก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เพราะเรายังขาดบุคลากรด้านนี้อยู่เป็นจำนวนมาก” รมว.ศึกษาธิการกล่าว.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ วันที่ 18 พ.ค. 2560