เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ ได้เผยแพร่ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 222/2560 ผลประชุมองค์กรหลัก 17/2560 โดยมีสาระสำคัญ เกี่ยวกับ การนำเงินพระราชทาน 40 ล้านบาท ไปให้ความช่วยเหลือเหตุอุทกภัยในภาคใต้ แนวทางการผลิตครู ให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ และแนวทางการส่งเสริมให้เด็กมีเส้นทางสายอาชีพตั้งแต่ต้น โดยมีรายละเอียดเนื้อหาสาระข่าว ดังนี้
ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมองค์กรหลัก ครั้งที่ 17/2560 เมื่อวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2560 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม รวมทั้ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมประชุม
● การนำเงินพระราชทาน 40 ล้านบาท ไปให้ความช่วยเหลือเหตุอุทกภัยในภาคใต้
ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนนักศึกษา สถานศึกษา หน่วยงาน และประชาชนหลายด้านอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคใต้จำนวน 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินส่วนพระองค์ที่ได้จากการจำหน่ายบัตรอวยพรและไดอารี่ภาพวาดฝีพระหัตถ์ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง
ในจำนวนนี้ เงินพระราชทานจำนวน 15 ล้านบาท ได้นำไปช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 27 คน ซึ่ง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่ไปดูแลแล้ว เพื่อให้เด็กทั้ง 27 คน ได้รับทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี
ส่วนเงินพระราชทานอีก 25 ล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการจะนำไปจัดซื้อโต๊ะเก้าอี้สำหรับนักเรียน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ออกแบบให้ครูและนักเรียนได้ดูก่อนว่าชอบหรือไม่ เพื่อดำเนินการจัดซื้อให้ทันใช้ก่อนเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2560
● แนวทางการผลิตครู ให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
นายกรัฐมนตรีได้มีดำริถึงการผลิตครูว่า จากการไปดูงานที่สิงคโปร์เห็นว่ามีหน่วยงานที่ดูแลการผลิตครูเพียงแห่งเดียว ในขณะที่ไทยมีสถาบันอุดมศึกษาหลากหลายแห่ง แต่การที่มีหลากหลายแห่งก็ควรจะมีเพียงมาตรฐานเดียวในการผลิต ที่ประชุมองค์กรหลักจึงมอบคุรุสภาไปพิจารณา ซึ่งคุรุสภาก็ได้แจ้งที่ประชุมในเบื้องต้นว่าได้เตรียมพัฒนาไว้แล้ว หลังจากที่ได้มีการประชุมเพื่อพัฒนากรอบมาตรฐานสมรรถนะครูในอาเซียน (High Officials Meeting on the Development of Regional Competency Framework for Teachers in Southeast Asia) เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล
ดังนั้น คุรุสภาจะเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดกรอบการผลิตครูให้แล้วเสร็จ เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) แจ้งสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งที่ผลิตครูได้ดำเนินการตามกรอบที่คุรุสภากำหนด อาจเป็น 4 หรือ 5 ปี แต่จะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศต่อไป
● แนวทางการส่งเสริมให้เด็กมีเส้นทางสายอาชีพตั้งแต่ต้น
นายกรัฐมนตรีได้ปรารภเพิ่มเติมด้วยว่า สิงคโปร์มีเส้นทางการเรียน (Education Path) สำหรับนักเรียนได้เลือกเรียนตามความถนัดตั้งแต่ต้นอย่างชัดเจนทั้งสายสามัญและสายอาชีพ ที่ประชุมจึงมอบให้ สพฐ. พิจารณากระบวนการให้เด็กทุกคนรู้เกี่ยวกับ Education Path ใน 4 ขั้นตอนที่สำคัญ คือ
- ให้มีการจัดระบบการแนะแนวที่เหมาะสม
- ให้ สพฐ.จัดทำหลักสูตรเสริมให้เด็กมีประสบการณ์ทำงาน (Work Experience) โดยเริ่มจากนักเรียนชั้น ม.3 ทุกคน ต้องไปเรียนรู้หรือฝึกงานหรือค้นหาอาชีพในสถานที่เด็กสนใจ เพื่อให้เด็กทดลองด้วยตัวเองก่อนว่าชอบหรือไม่ชอบในเส้นทางอาชีพนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในสาขาวิชานั้น ๆ ต่อไปในอนาคต โดยคาดว่าจะเริ่มต้นได้ภายในภาคปลาย ปีการศึกษา 2560
- ให้มีระบบเสริมอาชีพในโรงเรียน เช่น
- โครงการห้องเรียนกีฬา ซึ่ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ รับผิดชอบดำเนินการในขณะนี้ โดย รมว.ศึกษาธิการ ได้ขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่จากปัจจุบันซึ่งมี 4 แห่ง คือ ภาคเหนือ ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จ.สุโขทัย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม จ.มหาสารคาม, ภาคใต้ ที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ จ.กระบี่, ภาคกลาง ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จ.สมุทรสาคร ซึ่งอาจขยายเพิ่มห้องเรียนกีฬามากกว่า 1 ห้องเรียนก็ได้ โดยคำนึงถึงคุณภาพเป็นสำคัญ
- โครงการห้องเรียนดนตรี ซึ่ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ รับผิดชอบโครงการห้องเรียนดนตรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้ทำการเปิดรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนในระดับชั้น ม.1 และ ม.4 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 จำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ปัตตานี, โรงเรียนสุไหงโกลก จ.นราธิวาส และโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา
- ให้โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นโรงเรียนที่สอนอาชีพให้มากขึ้น
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน/กราฟิก
3/5/2560
ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 3 พฤษภาคม 2560