เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวมอบนโยบายติดตามผลการรับนักเรียนนักศึกษาและโครงการทวิศึกษา ให้แก่วิทยาลัยอาชีวศึกษารัฐและเอกชนภาคเหนือว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินการเพิ่มตัวเลขผู้เรียนสายอาชีพตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งตนรู้สึกหนักใจที่เด็กส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในการเรียนต่ออุดมศึกษา เพราะเป็นค่านิยมของการมุ่งใบปริญญา แต่กลับพบว่าผู้ที่จบปริญญาตรีก็ไม่มีงานรองรับต้องหันมาเปิดกิจการตนเอง จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างแรงจูงใจในการเรียนสายอาชีพมากขึ้นว่าเรียนจบแล้วมีงานทำ ขณะเดียวกัน ตนจะทำความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในโครงการทวิศึกษากับสถานศึกษาสังกัด อปท.เนื่องจากพบว่า สถานศึกษาที่จัดโครงการนี้ไม่ได้รับงบประมาณดำเนินการ
เลขาธิการ กอศ.กล่าวอีกว่า ตนยังได้ทำหนังสือถึง นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อขอให้ครูแนะแนวของวิทยาลัยอาชีวศึกษาต่างๆเข้าไปแนะแนวการเรียนต่อสายอาชีพให้แก่นักเรียน แต่ก็ยังพบว่าโรงเรียนบางแห่งไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ ควรจึงขอให้ ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาและเขตพื้นที่ได้ประสานการทำงานเรื่องระบบแนะแนวให้มากขึ้น อีกทั้งขอกำชับให้ผู้บริหารวิทยาลัยได้อยู่สถานศึกษาเพื่อทำงานบริหาร เพราะตนรู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากมีข้อมูลว่าผู้บริหารบางคนไม่อยู่วิทยาลัย เด็กต้องรอเพื่อให้เซ็นใบระเบียนศึกษา (รบ.) ทำให้เกิดปัญหา จึงขอให้ผู้บริหารใส่ใจเรื่องนี้ให้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องแก้ไขเร่งด่วนปีถัดไปคือ หารือกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เรื่องการปรับลดจำนวนห้องเรียนในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงในสังกัด สพฐ.ลง เช่น บางโรงเรียนเปิดสอนมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 ห้อง ก็อาจให้ลดเหลือ 5 ห้อง เป็นต้น รวมถึงจะส่งเสริมให้เปลี่ยนระบบแนะแนวการเข้าเรียนต่อสายอาชีพให้มีความเข้มข้นและทำอย่างจริงจังมากกว่าที่ผ่านมา.
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ 23 มี.ค. 2560