Advertisement
นาซา - ยานอวกาศไร้มนุษย์เพื่อสำรวจดาวพุธ "เมสเซนเจอร์" ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ที่ออกเดินทางจากโลกไปเมื่อ 4 ปีก่อน ได้เข้าสู่ดาวพุธในตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดคือ 200 ก.ม. เมื่อวันที่ 14 ม.ค.51 และส่งภาพถ่ายของดาวเคราะห์ดวงที่ 1 แห่งระบบสุริยะกลับสู่ชาวโลกให้ได้ชม
|
สัมผัสแรกกับด้านที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของดาวพุธ ภาพนี้ส่งมาเมื่อวันที่ 15 ม.ค.51 โดยยานเมสเซนเจอร์อยู่ในระยะห่างจากดาวพุธประมาณ 27,300 ก.ม. เผยให้เห็นในด้านของดาวที่เต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาต และลักษณะพิเศษของผิวดาว
ส่วนบนสุดด้านขวาของดาวเห็นแอ่งยักษ์ชื่อ "คาโลริส" (Caloris basin) เส้นผ่านศูนย์กลาง 1,300 ก.ม. แอ่งนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกิดจากอุกกาบาตขนาดใหญ่ชนอย่างรุนแรง จนทำให้ผิวดาวด้านตรงข้ามแอ่งเกิดปูดขึ้นมาเป็นหน้าผา
ทว่าในด้านซ้ายของภาพซึ่งเป็นแนวด้านตะวันตกของดาวพุธยังไม่มียานอวกาศลำใดได้บันทึกและถ่ายทอดมายังชาวโลก เชื่อกันว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะมีแอ่งหลุมอีกเป็นจำนวนมาก อันเกิดจากการปะทะของดาวหางหรือไม่ก็อุกกาบาตต่างๆ
อย่างไรก็ดีคาโรลิสนอกจากจะเป็นหนึ่งแอ่งที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะแล้ว ยังอาจจะเป็นหนึ่งในแอ่งที่อายุน้อยที่สุดในระบบอีกด้วยก็ได้
|
ภาพแรกเมื่อใกล้ดาวพุธที่สุดภาพนี้ถูกบันทึก 9 นาทีให้หลังเมื่อเมสเซนเจอร์อยู่ในตำแหน่งใกล้ดาวพุธที่สุดนับจากยานมาริเนอร์ 10 (Mariner 10) ที่นาซาส่งมาสำรวจเมื่อ 2517-2518 โดยกล้องมุมกว้างของยาน (Wide Angle Camera : WAC) ด้วยระบบการบันทึกภาพดาวพุธแบบคู่ (Mercury Dual Imaging System : MDIS)
ที่กล้องของเมสเซนเจอร์เชื่อมต่อกับอุปกรณ์กรองแสง (ฟิลเตอร์) ถึง 11 ชนิด และภาพที่เห็นนี้ใช้ฟิลเตอร์หมายเลข 7 ในการบันทึก เพราะความอ่อนไหวต่อแสงสีแดง อันเป็นแถบแสงสุดท้ายในแถบสเปกตรัมของแสงที่มองเห็นด้วยตา (750 นาโนเมตร) ซึ่งในมุมเดียวกันนี้ยังได้บันทึกภาพในฟิลเตอร์ชนิดต่างๆ อีก 10 ตัวที่เหลือไว้ด้วย เพราะถือเป็นตำแหน่งที่เข้าใกล้ดาวพุธมากที่สุดของเมสเซนเจอร์
ภาพนี้เผยให้เห็นผิวของดาวพุธเมื่อมองจากมุมต่ำ โดยในทางขวาของภาพเป็นภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหลุม ซึ่งภาพที่บันทึกบริเวณนี้ในมุมต่างๆ และที่ย่านแสงสีต่างกันไป จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำความรู้จักกับพรมแดนที่เต็มไปด้วยหลุม ในด้านที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของดาวพุธได้มากขึ้น
|
ภาพบันทึกที่บริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรของดาวพุธ ที่ระยะห่างจากดาว 5,700 ก.ม. ในด้านที่ไม่เคยมีการบันทึกภาพมาก่อน ซูมจนสามารถเห็นหลุมขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ก.ม.
ภาพนี้กินความกว้าง 160 ก.ม. รายละเอียดระดับสูงที่ได้จากภาพนี้ เชื่อว่ามากพอจะทำให้นักภูมิศาสตร์ดาวเคราะห์ศึกษาลักษณะการก่อตัวของผิวดาวพุธย้อนหลังไปถึง 4 พันล้านปีก่อน
แนวหน้าผาสูงและยาวบริเวณกลางภาพกินพื้นที่ไปจนถึงมุมล่างขวา เป็นเขตที่โดนอุกกาบาตขนาดใหญ่กระทบ ส่วนหลุมเล็กๆ 2 แอ่งด้านบน น่าจะเกิดจากสะเก็ดที่กระแทกจนเกิดหลุมใหญ่
|
ดาวพุธในมุมครึ่งเสี้ยวมุมเดียวกันกับที่มาริเนอร์ 10 เคยบันทึกไว้เมื่อ 30 กว่าปีก่อน แต่นั่นดวงอาทิตย์กำลังตั้งฉากกับดาวพุธ ส่วนภาพที่เมสเซนเจอร์บันทึกมานี้เห็นช่วงเทอร์มิเนเตอร์ (terminator) เส้นแบ่งเขตความมืดและความสว่างของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอย่างชัดเจน
ภาพนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาสัดส่วนของดาวพุธได้จากแสงเงาที่ตกกระทบ
|
อีกมุมที่มองดาวพุธอย่างใกล้ชิด เห็นพื้นผิวที่มีลักษณะหลากหลาย ทั้งที่ราบเรียบในส่วนกลางภาพ และหลุมที่ถูกกระแทกจำนวนมาก รวมทั้งหลุมขนาดใหญ่ที่มุมขวาล่าง ที่เต็มไปด้วยเศษหินขรุขระมากมายที่ขอบปากหลุม เชื่อว่าน่าจะมาจากการพ่นวัตถุออกมาของหลุมยักษ์
|
หลุมยักษ์ขนาดใหญ่ที่ใจบริเวณเส้นศูนย์สูตรดาวพุธ เชื่อว่าน่าจะเป็นหลุมที่เกิดใหม่ เพราะพื้นหลุมที่ราบเรียบ และแนวขอบที่ก่อตัวสูงขึ้นมานั้น เป็นร่องรอยของวิวัฒนาการของชั้นหินอายุน้อย
นักวิทยาศาสตร์เห็นแล้วเชื่อว่าหลุมดังกล่าวน่าจะเกิดจากการกระแทกขนาดเบาหลายๆ ครั้ง จนลึกลงไปในพื้นผิวของดาว เกิดหลุมเป็นแนวยาว และมีมวลพวยพุ่งออกมา
|
หลุมยักษ์ (ด้านขวาของภาพ) ที่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของดาวพุธกลายเป็นจุดสนใจ เมื่อเมสเซนเจอร์ก็ได้บันทึกภาพแบบความละเอียดสูง เผยให้เห็นหลุมที่เรืองแสงสีขาวปลดปล่อยวัตถุบางอย่างออกมาจากใจกลางหลุม
|
ภาพอีกชิ้นได้ที่ฉายให้เห็นส่วนของดาวพุธที่ได้รับแสงอาทิตย์ เห็นภูมิประเทศของม้าเร็วแห่งระบบสุริยะได้เด่นชัด เมื่อสังเกตภาพนี้ด้วยตาเปล่า
หลุมที่มีวงแหวนล้อม 2 ชั้นด้านบนขวาของภาพ มีลักษณะราบเรียบที่ใจกลาง น่าจะเคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน
ส่วนหลุมเล็กๆ ทางด้านบนซ้ายของภาพ ที่มีแนวหน้าผาพาดผ่าแสดงให้เห็นว่ารอยเลื่อนบริเวณนั้นเคยแอคทีฟก่อนที่หลุมจะก่อตัวขึ้น
(ภาพทั้งหมดจาก NASA / Johns Hopkins University Applied PhysicsLaboratory/Carnegie Institution of Washington)
|
|
ภาพจำลองเมสเซนเจอร์ยานสำรวจดาวพุธ ที่ตอนนี้กำลังถึงที่หมายปลายทางและส่งภาพด้านที่ยานมาริเนอร์ไม่เคยบันทึกมาก่อนกลับสู่โลก |
|
![](http://www.manager.co.th/images/blank.gif) |
![](http://www.manager.co.th/images/blank.gif) |
** ชื่อยานผู้ส่งสาร "เมสเซนเจอร์" ย่อมาจากชื่อภาษาอังกฤษว่า MErcury Surface, Space ENvironment, GEochemistry and Ranging : MESSENGER. เพื่อสำรวจดาวพุธ โดยมีคำตอบสำคัญให้ค้นหาคือ เหตุใดดาวพุธจึงมีความหนาแน่นมาก, ภูมิหลังทางธรณีวิทยาของดาวพุธ, โครงสร้างของแกนดาวพุธ, สนามแม่เหล็กและขั้วของดาวมีลักษณะอย่างไร รวมถึงสารระเหยต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อดาวดวงนี้
เมสเซนเจอร์มีช่วงเวลาสำคัญของภารกิจดังนี้
3 ส.ค.2547 - เมสเซนเจอร์เดินทางออกจากโลก
ส.ค. 2548 - โคจรผ่านโลก
ต.ค.2549 - โคตรผ่านดาวศุกร์
มิ.ย.2550 - โคจรผ่านดาวศุกร์ (อีกครั้ง)
ม.ค.2551 - โคจรผ่านดาวพุธ
ต.ค.2551 - โคจรผ่านดาวพุธ (อีกรอบ)
ก.ย.2552 - โคจรผ่านดาวพุธ (เป็นครั้งที่ 3)
มี.ค.2554 - ปีแห่งการส่งข้อมูลดาวพุธสู่โลก
|
|
ภาพดาวพุธสีเหลืองนวลซ้ายมือที่บันทึกโดยยานมาริเนอร์ 10 เมื่อ 33 ปีก่อน เทียบกับโลกของเราด้านขวามือ ทั้งขนาดและสีสันที่มีความแตกต่างกันสูง |
|
![](http://www.manager.co.th/images/blank.gif) |
![](http://www.manager.co.th/images/blank.gif) |
ข้อมูลดาวพุธโดยสังเขป
ดาวพุธ (Mercury) เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 1 แห่งระบบสุริยะ อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด โดยมีระยะห่างเพียงแค่ 57 ล้าน ก.ม. (เทียบกับโลกที่ห่างดวงอาทิตย์ 149 ล้าน ก.ม.) ดาวพุธมีวงโคจรเป็นวงรีมาก มีมวล 0.05 เท่าของโลก มีขนาดเกือบครึ่งหนึ่งของโลก ดาวพุธมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5,760 ก.ม. ขณะที่โลกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 12,640 ก.ม.
หนึ่งวันของดาวพุธเท่ากับ 58 วันของโลก และหนึ่งปีของดาวพุธเท่ากับ 87.9 วันของโลก ที่สั้นกว่าขนาดนั้นเพราะดาวเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 47.9 ก.ม.ต่อวินาที การโคจรที่รอบดวงอาทิตย์ที่เร็วที่สุดนี้ ทำให้ดาวพุธได้รับฉายาว่า "ดาวแห่งการสื่อสาร" เพราะความว่องไว หรืออาจจะเป็น "ม้าเร็วแห่งระบบสุริยะ" ก็ว่าได้
ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ดาวพุธหันหน้าด้านเดียวเข้าหาดวงอาทิตย์เสมอ ต่อมาภายหลังจึงได้รู้ว่าเมื่อดาวพุธหมุนรอบตัวเองครบ 3 รอบก็จะโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 2 รอบพอดี
ดาวพุธมีชั้นบรรยากาศที่เบาบาง ที่ผิวดาวพุธจึงจึงถูกทำร้ายด้วยอุกกาบาตมากมายเช่นเดียวกับดวงจันทร์ รวมทั้งทำให้อุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนจึงแตกต่างกันมาก ต่ำสุด -173 องศาขณะที่สูงสุด 427 องศาจึงเปรียบได้ดั่ง "เตาไฟแช่แข็ง"
|
![](http://www.manager.co.th/images/blank.gif) |
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ 22 มกราคม 2551 17:27 น.
Advertisement
![ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30) ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30)](news_pic/p17797220624.jpg) เปิดอ่าน 25,863 ครั้ง ![วงจรไฟฟ้า วงจรไฟฟ้า](news_pic/p73878571002.jpg) เปิดอ่าน 66,124 ครั้ง ![น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร น้ำค้างเกิดขึ้นจากอะไร](news_pic/p25543481403.jpg) เปิดอ่าน 130,982 ครั้ง ![ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร? ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร?](news_pic/p13276552239.jpg) เปิดอ่าน 59,913 ครั้ง ![โครงสร้างอะตอม โครงสร้างอะตอม](news_pic/p24725520819.jpg) เปิดอ่าน 5,979 ครั้ง !["ซัคเกอร์"..ตัวอันตราย รุกทำลายสัตว์น้ำไทย "ซัคเกอร์"..ตัวอันตราย รุกทำลายสัตว์น้ำไทย](news_pic/p50440270756.jpg) เปิดอ่าน 56,913 ครั้ง ![วอยเอเจอร์ 2 เผยระบบสุริยะไม่กลม วอยเอเจอร์ 2 เผยระบบสุริยะไม่กลม](news_pic/p86896221012.jpg) เปิดอ่าน 16,409 ครั้ง ![สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์ไทย สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์ไทย](news_pic/p84580200739.jpg) เปิดอ่าน 15,473 ครั้ง ![การทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้น การทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้น](news_pic/p44535621022.jpg) เปิดอ่าน 43,763 ครั้ง ![ข้อควรปฏิบัติ เมื่อสารเคมีหก ข้อควรปฏิบัติ เมื่อสารเคมีหก](news_pic/p66402570724.jpg) เปิดอ่าน 28,560 ครั้ง ![ห่วงโซ่อาหาร ห่วงโซ่อาหาร](news_pic/p79141391300.jpg) เปิดอ่าน 28,736 ครั้ง ![ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร](news_pic/p46038270606.jpg) เปิดอ่าน 14,834 ครั้ง ![ปลูกถ่ายเซลล์กระดูกอ่อนผิวข้อ จากสุนัขมุ่งเน้นใช้ กับคนในอนาคต ปลูกถ่ายเซลล์กระดูกอ่อนผิวข้อ จากสุนัขมุ่งเน้นใช้ กับคนในอนาคต](news_pic/p97748100839.jpg) เปิดอ่าน 13,926 ครั้ง ![20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์ 20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์](news_pic/p20541490904.jpg) เปิดอ่าน 20,721 ครั้ง ![การวัดความชื้นในบรรยากาศ การวัดความชื้นในบรรยากาศ](news_pic/p20862490840.jpg) เปิดอ่าน 58,625 ครั้ง ![ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทองคำ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทองคำ](news_pic/p32524492133.jpg) เปิดอ่าน 40,182 ครั้ง
|
![แผ่นดินไหว แผ่นดินไหว](news_pic/p38730880934.jpg)
เปิดอ่าน 14,567 ☕ คลิกอ่านเลย |
![ดวงจันทร์ (Moon) ดวงจันทร์ (Moon)](news_pic/p62355231600.jpg)
เปิดอ่าน 18,401 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ข้าวกล้องงอก ข้าวกล้องงอก](news_pic/p91165111256.jpg)
เปิดอ่าน 18,478 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30) ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30)](news_pic/p17797220624.jpg)
เปิดอ่าน 25,863 ☕ คลิกอ่านเลย | ![สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย](news_pic/p65191931428.jpg)
เปิดอ่าน 3,995 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย](news_pic/p97138480834.jpg)
เปิดอ่าน 29,736 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ไส้เดือนดิน ไส้เดือนดิน](news_pic/p39739211258.jpg)
เปิดอ่าน 12,821 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ ![บริการเช่ารถหรู ที่จะช่วยเติมเต็มความฝันของคุณให้เป็นจริงในทันตา! บริการเช่ารถหรู ที่จะช่วยเติมเต็มความฝันของคุณให้เป็นจริงในทันตา!](news_pic/p32148551751.jpg)
เปิดอ่าน 1,755 ครั้ง | ![Quiet Quitting คืออะไร? เหตุใดคนรุ่นใหม่ไม่เชื่อว่าทุ่มเทแล้วจะได้ดี Quiet Quitting คืออะไร? เหตุใดคนรุ่นใหม่ไม่เชื่อว่าทุ่มเทแล้วจะได้ดี](news_pic/p55347040639.jpg)
เปิดอ่าน 7,343 ครั้ง | ![นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา นโยบายและมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา](news_pic/p81113392108.jpg)
เปิดอ่าน 23,593 ครั้ง | ![กฎหมายน่ารู้ ตอน "ครูยึดโทรศัพท์นักเรียน มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์" กฎหมายน่ารู้ ตอน "ครูยึดโทรศัพท์นักเรียน มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์"](news_pic/p42062811601.jpg)
เปิดอ่าน 31,808 ครั้ง | ![เชอร์รี่-บลูเบอร์รี่ นี่ล่ะ...สุดยอดผลไม้ชะลอวัย เชอร์รี่-บลูเบอร์รี่ นี่ล่ะ...สุดยอดผลไม้ชะลอวัย](news_pic/p68769590758.jpg)
เปิดอ่าน 13,545 ครั้ง |
|
|