มูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์ กำหนดให้สมาชิกคุรุสภาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบของมูลนิธิฯ ยื่นแบบขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และประกาศนียบัตร ต่อมูลนิธิช่วยครูอาวุโสในพระบรมราชูปถัมภ์
ภายในวันที่ 30 เมษายน 2560
1. ผู้ยื่นขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และประกาศนียบัตร จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1.1 เป็นสมาชิกคุรุสภา ตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 ที่ได้รับสิทธิประโยชน์อยู่ก่อนพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ใช้บังคับ หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพแห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาพ.ศ. 2546 ที่จะมีอายุครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2560
1.2 เป็นผู้ประกอบวิชาชีพครู หรือผู้ประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาที่ได้รับเงินเดือนประจำ และทำการสอนหรือบริหารในสถานศึกษามาแล้วมีระยะเวลารวมกันไม่น้อยกว่า 30 ปี เฉพาะผู้ประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา และผู้ประกอบวิชาชีพบุคลากรทางการศึกษาอื่น ต้องเคยเป็นครูหรือผู้บริหารสถานศึกษามาแล้วมีระยะเวลารวมกันไม่น้อยกว่า 10 ปี และมีระยะเวลาในการประกอบวิชาชีพทางการศึกษารวมกันไม่น้อยกว่า 30 ปี
1.3 เป็นผู้ประกอบวิชาชีพครูหรือดำรงตำแหน่งอื่นอันเกี่ยวกับการให้การศึกษา จนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์
1.4 เป็นผู้มีประวัติชีวิตการงานดีตลอดมา มีความประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีตามจารีตของครูซึ่งผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องตามข้อ 1.1 - 1.4 เท่านั้น จึงจะได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานเครื่องหมาย เชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร หรือผู้แทนพระองค์ ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2561 ส่วนจะเป็นวันใดสุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ
2. สมาชิกคุรุสภาที่มีความประสงค์จะขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และประกาศนียบัตร ต้องยื่นเอกสารประกอบการพิจารณา รวม 5 รายการ ดังนี้
2.1 แบบขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ (แบบ มอ. 1)
2.2 รูปที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปี ที่ชัดเจน (อัดบนกระดาษอัดรูป) ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป
2.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2.4 สำเนาบัตรประจำตัวสมาชิกคุรุสภา หรือสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
2.5 สำเนาสมุดประวัติการเป็นครู
ดาวน์โหลดเอกสารและแบบฟอร์มได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา <<คลิก