โฆษกรัฐบาลปฏิเสธแนวคิดล้มเลิกโครงการบัตรทอง ชี้รัฐจัดสรรงบรายหัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย้ำประชาชนได้รับสิทธิคงเดิมและเพิ่มขึ้น 3 รายการ แนะตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนหลงเชื่อ
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่างบประมาณรายหัวหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอ
โฆษกรัฐบาลปฏิเสธแนวคิดล้มเลิกโครงการบัตรทอง ชี้รัฐจัดสรรงบรายหัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย้ำประชาชนได้รับสิทธิคงเดิมและเพิ่มขึ้น 3 รายการ แนะตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนหลงเชื่อ
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่างบประมาณรายหัวหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทองได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอ เพราะเป็นภาระด้านงบประมาณ และรัฐบาลพยายามจะล้มเลิกโครงการบัตรทอง ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ร่วมมือกันอย่างดีในการดูแลประชาชนและได้ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ดีขึ้นด้วย
“ปีงบประมาณ 2561กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับการจัดสรรงบประมาณ เป็นจำนวนเงิน 128,533 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3,197.32 ต่อหัวประชากร เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2560 จำนวน 87.75 บาทต่อหัว และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 2 – 3 ปีนี้ โดยพี่น้องประชาชนยังคงได้รับสิทธิเช่นเดิม และมีส่วนที่จะได้รับเพิ่มขึ้น คือ ค่าบริการวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ค่าบริการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และค่าบริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน”
พลโท สรรเสริญ กล่าวต่อว่า รัฐบาลอยากให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องถ้วนถี่ เมื่อได้รับข่าวสารจากแหล่งต่าง ๆ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย เพราะมีหลายครั้งที่ข้อมูลถูกบิดเบือนเพื่อทำให้สังคมหลงเชื่อ เช่น มีการแชร์ข่าวต่อกันว่า ประชาชนถูกหลอกให้สนใจข่าวตามจับธัมมชโย แต่รัฐบาลได้ตัดงบโครงการบัตรทองไปเรียบร้อยแล้ว เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยืนยันว่า จะร่วมกันบริหารงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อไม่ให้กระทบกับคุณภาพการให้บริการประชาชน
ขอบคุณที่มาจาก เว็บไซต์รัฐบาลไทย วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560