ประธานอาชีวศึกษาจังหวัดนครพนม ขอความเป็นธรรม"หมอธี" ถ้ามี คสช.ออกมาตรา 44 การเข้าสู่ตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด รองศึกษาธิการภาค ศึกษาธิการภาค ให้อาชีวะจังหวัดได้สิทธิ์เท่าเทียม ผอ.สพป.,ผอ.สพม.,ผอ.กศน.จังหวัดด้วย
วันนี้ (21 ก.พ.) นายพิเชฏฐ์ หลั่งทรัพย์ ประธานอาชีวศึกษาจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่ากระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) จะเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ให้มีตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด โดยจะมีแต่ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) เข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าวได้ นั้น ในฐานะตัวแทนประธานอาชีวศึกษาจังหวัดทั่วประเทศ ขอความเป็นธรรมกับ รมว.ศธ. ว่า ถ้ามีการออกมาตรา 44ดังกล่าวจริงก็ควรให้ประธานอาชีวศึกษาจังหวัดมีตำแหน่งบริหารการศึกษาและมีอำนาจหน้าที่ที่เสมอภาคเท่าเทียมกันกับ ผอ.สพป. ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) และผอ.สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)จังหวัด โดยถ้า ผอ.สพป., ผอ.สพม., ผอ.กศน.จังหวัด สามารถเลื่อนไหลเข้าสู่ตำแหน่ง หรือ วิทยฐานะได้ อาชีวศึกษาจังหวัดก็ควรได้ด้วย เช่น เป็นผู้อำนวยการระดับสูง หรือ ศึกษาธิการจังหวัด มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และสามารถก้าวไปสู่ตำแหน่ง นักบริหารระดับต้น หรือ รองศึกษาธิการภาค และนักบริหารระดับสูง หรือ ศึกษาธิการภาคได้
“ทั้ง สพป.,สพม.,กศน.จังหวัด และอาชีวศึกษาจังหวัด ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในจังหวัด ดังนั้น การเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆก็ควรเป็นระนาบเดียวกัน ไม่เหลื่อมล้ำกัน " นายพิเชฏฐ์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ขอให้มีการจัดตั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอาชีวศึกษาจังหวัดด้วย.
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 16.33 น.