เผยประหยัดงบฯหวังผลิตสื่อทันสมัย มีบทลงโทษถ้าไม่รักษาหนังสือ
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการให้ยืมตำราเรียนว่า กระทรวงศึกษาธิการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อตำราเรียนแจกนักเรียนฟรีปีละ 5,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อตำราเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์, กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์, กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย, กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ, กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ, กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี, กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ซึ่งเนื้อหาความรู้ต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในโลกยุคปัจจุบันตำราเรียนต่างๆจะต้องมีคุณภาพ แต่ที่ผ่านมาการแจกตำราเรียนจะพบว่า เมื่อเด็กเรียนเสร็จแล้วก็จะนำไปกองทิ้งไว้ไม่รักษา ขณะที่ความรู้ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป เราจึงไม่สามารถยึดตำราเรียนเพียงอย่างเดียวเป็นหลัก เราสามารถเรียนรู้ได้จากเอกสารเพิ่มเติมความรู้จากครูแต่ละวิชา ตำราคืออุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ช่วยเราในการเรียน ดังนั้น ตนจึงมีนโยบายที่จะให้เด็กยืมเรียนและให้เด็กรักษาตำราเรียนที่ได้รับไป โดยมีเงื่อนไขว่าหากมีเจตนาที่จะไม่รักษาตำราเรียนก็ต้องมีมาตรการลงโทษ เพราะฉะนั้นเด็กที่ดีอยู่แล้วจะไม่ทำลายหนังสือ ขณะเดียวกันหากจำเป็นต้องขีดเขียนในหนังสือแบบฝึกหัด เราก็ยังแจกแบบฝึกหัดเช่นเดิม
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ประเทศที่ร่ำรวยแล้ว รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติระดับโลกที่เปิดการเรียนการสอนในประเทศไทย ก็ให้เด็กยืมเรียนหมด รวมทั้งการเรียนการสอนในประเทศบรูไน ซึ่งตนเพิ่งเดินทางไปเยือนก็ให้เด็กยืมตำราเรียนเช่นเดียวกัน และรู้สึกประหลาดใจที่ประเทศไทยมีนโยบายแจกหนังสือเด็ก
“กระทรวงศึกษาธิการเคยมีนโยบายแจกตำราเรียนมาก่อน แต่ผมไม่ทราบว่าทำไมถึงเลิก ตอนนี้ผมจะนำกลับมาทำใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์คือ 1.จะสามารถประหยัดงบประมาณจัดพิมพ์ตำราเรียนสำหรับปีหน้า และนำเงินมาผลิตตำราดีๆให้นักเรียนได้ยืมต่อในรุ่นต่อไป 2. เงินที่ประหยัดงบประมาณได้นั้น จะสามารถนำมาผลิตอุปกรณ์สื่อการสอนที่ทันสมัย ซึ่งคาดว่าเราจะสามารถประหยัดได้ปีละหลายพันล้าน และ 3.เพื่อเป็นการฝึกเด็กไทยให้มีวินัยในการรักษาสมบัติต่างๆ” นพ.ธีระเกียรติกล่าว.
ขอบคุณที่มาจาก ไทยรัฐ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560