คณะทำงาน ศธ.ชงหลักเกณฑ์ให้ทุนโครงการ 1 ทุน 1อำเภอ รุ่นที่ 5 ใหม่ กระจายให้สายสามัญ ต้องเรียนในอำเภอนั้น 3 ปี สายอาชีวะเรียนในจังหวัดนั้น 3 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เรียนทวิศึกษาสมัครรับทุนในสายอาชีวศึกษาได้
วันนี้ (13 ก.พ.) ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาร่างหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการ1 อำเภอ 1 ทุน(โอดอส) รุ่นที่ 5 เปิดเผยว่า คณะทำงานได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า โครงการโอดอส รุ่นที่ 5 จะมีนักเรียนทุนเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ 2 สาย คือ สายสามัญ และ สายอาชีวศึกษา โดยสายสามัญมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ คือ ต้องมีภูมิลำเนาหรือเรียนในอำเภอนั้นอย่างน้อย 3 ปี ครอบครัวมีรายได้น้อยกว่า 2.5 แสนบาทต่อปี มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 3 ขึ้นไป ยื่นใบสมัครที่โรงเรียนที่เรียนอยู่โดยให้ระบุสาขาที่จะเรียนและประเทศที่จะไปตั้งแต่ตอนยื่นสมัคร และให้คณะกรรมการสถานศึกษาเป็นผู้ดำเนินการคัดกรองเบื้องต้น โดยไม่ต้องสอบแข่งขัน แต่จะพิจารณาจากคะแนนทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน(โอเน็ต)ที่เท่ากับหรือสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับชาติ และ ศธ.จะตั้งคณะกรรมการกลางลงไปสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกในขั้นตอนต่อไป
รองปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับสายอาชีวศึกษา ต้องมีภูมิลำเนาหรือเรียนอาชีวศึกษาในจังหวัด เพราะสายอาชีวศึกษาจะเป็นตัวแทนของจังหวัดไม่ใช่อำเภอ ครอบครัวมีรายได้น้อยกว่า 2.5 แสนบาทต่อปี มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 3 ขึ้นไป ยื่นใบสมัครที่วิทยาลัยที่เรียนอยู่ โดยให้ระบุสาขาพร้อมประเทศที่ต้องการเรียน ซึ่งเป็นสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ 3 สาขา ไม่ต้องสอบแข่งขัน แต่จะพิจารณาจากคะแนนทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านอาชีวศึกษา(วีเน็ต)ที่เท่ากับหรือสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับชาติ คัดกรองเบื้องต้นโดยสถานศึกษา และมีการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกจากส่วนกลางไปสัมภาษณ์เหมือนกัน
“เมื่อได้รายชื่อผู้รับทุนแล้ว จะจัดอบรมเตรียมความด้านภาษาของประเทศนั้นๆอย่างน้อย 3 เดือน และเมื่อเด็กเดินทางไปต่างประเทศแล้วยังมีสิทธิที่จะเรียนภาษาเพิ่มเติมก่อนที่จะเข้าเรียนได้อีก 1 ปี ซึ่งในส่วนของสายอาชีวะนี้อาจไปเรียนแค่อบรมความรู้เพิ่มเติมระยะสั้น 1-2 ปี ไม่ต้องไปเรียนระดับปริญญาตรีก็ได้ พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้เด็กที่เรียนด้วยรูปแบบทวิศึกษาสามารถสลับมาสมัครรับทุนในสายอาชีวศึกษาได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศธ.ได้ให้ข้อคิดว่า ควรสร้างความตระหนักให้เด็กทุนรุ่นใหม่ว่า จะต้องกลับมารับใช้ประเทศ เพราะเงินที่ใช้ไปเป็นเงินภาษีของประชาชน ซึ่ง ศธ.จะประสานให้สถานทูตหรือสถานกงสุล ซึ่งเป็นผู้ดูแลนักเรียนไทยในต่างประเทศ รายงานความประพฤติเด็กกลับมาเป็นระยะถี่ขึ้น รวมถึงให้มีการแนะแนวก่อนจบการศึกษาด้วยว่า เมื่อจบแล้วมีบริษัทหรือสถานประกอบการใดที่สามารถไปสมัครงานได้บ้าง” ดร.ชัยยศ กล่าวและว่า คณะทำงานจะนำเสนอร่างหลักเกณฑ์นี้ต่อ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. ฐานะประธานคณะอนุกรรมการโครงการ1อำเภอ1ทุน เพื่อพิจารณาก่อนเสนอ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ.พิจารณาต่อไป.
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560