เว็บไซต์เอเชียน คอเรสปอนเดนท์ ระบุว่าเวียดนามจะกลายเป็น "ซิลิคอน แวลลีย์" หรือศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยีในอาเซียน เนื่องจากเวียดนามมีนโยบายการศึกษาที่ดี ได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุนจากรัฐบาล และมีบรรยากาศที่ส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
บทความดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการศึกษาที่ประสบความสำเร็จของเวียดนาม โดยอ้างถึงโครงการประเมินผลร่วมกับนานาชาติ หรือ PISA วัดความรู้และทักษะของเด็กอายุ 15 ปีทั่วโลก ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ซึ่งเด็กเวียดนามได้คะแนนวิทยาศาสตร์อันดับที่ 8 และคณิตศาสตร์อันดับที่ 22 เป็นครั้งแรก ชนะสหรัฐฯ และอังกฤษ ขณะที่เด็กไทยอยู่ในอันดับ 54
อีกหนึ่งผลสำรวจที่ยืนยันความสำเร็จของการศึกษาเวียดนาม คือ Young Lives Project โครงการวิจัยด้านความยากจนในเด็กของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในอังกฤษ ที่พบว่าเด็กเวียดนามอายุ 10 ปีกว่าร้อยละ 85 สามารถบวกลบเลขเศษส่วนได้
ความสำเร็จด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของเวียดนาม ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีจากต่างชาติ โดยก่อนหน้านี้ นาย นีล เฟรเซอร์ วิศวกรด้านซอฟต์แวร์จากบริษัทเครือกูเกิล ได้เข้าไปเยี่ยมโรงเรียนท้องถิ่นในเวียดนามมาแล้ว และยืนยันว่าความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ของเด็กๆชาวเวียดนามสูงที่สุดจากทุกประเทศที่เขาเคยไปมา
ซีอีโอของกูเกิล อย่างซันดาร์ พิชัย ที่ได้ไปเยือนเวียดนามและพูดคุยกับนายเหงียนเติ๊นสุง นายกรัฐมนตรีของเวียดนามมาแล้ว กล่าวว่าเวียดนามจะกลายเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของกูเกิลในอนาคต โดยเร็วๆนี้ กูเกิลได้เตรียมฝึกอบรมวิศวกรด้านไอทีชาวเวียดนาม 1,400 คน
อีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้เวียดนามประสบความสำเร็จ คือนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนาม ที่วางเป้าหมายว่าต้องการเปลี่ยนเวียดนามให้เป็น"ซิลิคอน แวลลีย์"ในอนาคต นอกจากนี้ ค่าแรงในเวียดนามในบางอุตสาหกรรม เช่น อุตสากรรมเทคโนโลยี ยังถูกกว่าหลายประเทศ
ปัจจุบัน บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆระดับโลกหลายแห่งได้ตั้งโรงงานการผลิตในเวียดนาม อย่างไรก็ตาม จากเหตุผลทั้งหมดโดยเฉพาะการศึกษา ทำให้สื่อนอกมองว่าเวียดนามอาจเปลี่ยนจากผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยี เป็นประเทศผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆได้ในอนาคต
โดย สุชาณี รุ่งเหมือนพร
ขอบคุณที่มาจาก VOICE TV21 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560