จากกรณี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กล่าวมอบนโยบายการปฏิบัติงานในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูง 5 องค์กรของกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 1/2560 เมื่อเร็วๆนี้ โดย นพ.ธีระเกียรติ ได้ยืนยันว่า การจัดหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจะอยู่ในกรอบเดิม แต่จะเน้นไปที่การเรียนแบบ Active Learning (แอ็กทีฟ เลิร์นนิ่ง) ให้มากขึ้น ซึ่งการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning นี้ เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ ให้นักเรียนได้มีโอกาสลงมือกระทำ และได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ได้กระทำนั้น
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า โดยส่วนตัวแล้วขอชื่นชม พร้อมสนับสนุนแนวทางดังกล่าวของ นพ. ธีระเกียรติ เนื่องจากถือว่า ศธ.ได้เดินมาถูกทางแล้ว และมองเห็นความเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ดร.ศักดิ์สินกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาพบว่าเยาวชนไทยยังขาดศักยภาพการคิดค้นนวัตกรรม ดังนั้น ทิศทางของ นพ.ธีระเกียรติที่ให้ครูเน้นการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning จะส่งผลทำให้นักเรียนไทยพัฒนาสมรรถนะสำคัญได้ดังนี้ ประกอบด้วย สมรรถนะการคิดวิเคราะห์ สมรรถนะการทำงานเป็นทีม สมรรถนะการแก้ปัญหาค่านิยมระดับจิตวิญญาณ และสมรรถนะด้านการสื่อสาร ส่งผลให้เกิดเป็นความรู้ ความเข้าใจในระดับหลักการ จนสามารถสร้างนวัตกรรมขึ้นมาเองได้ แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 1 ปี จึงอยากให้ นพ.ธีระเกียรติ ประกาศแนวทางดังกล่าวให้มีความชัดเจน เพื่อให้ครูทั่วประเทศนำไปดำเนินการเปลี่ยนแปลงการสอนจากเดิมที่สอนแบบ passive learning คือ ครูบรรยายให้นักเรียนฟัง มาเป็น Active Learning ตลอดแนว ตั้งแต่ชั้นระดับประถมศึกษาคือ ป.1-ป.6 ไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาคือ ม.1-ม.6 ในทันที จึงจะทันได้เห็นผลในรัฐบาลนี้.
ขอบคุณที่มาจาก ไทยรัฐ 21 ม.ค. 2560