ประชุม อ.ก.พ.ศธ.นัดแรก หลัง คสช.มีคำสั่งการแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลฯ รวม 5อ.ก.พ.กรม เหลือ อ.ก.พ.กระทรวงคณะเดียว "ธีระเกียรติ” แย้มไอเดียแก้เกณฑ์สรรหาผู้บริหารระดับสูงใหม่ พิจารณาจากระดับ 9 กระทรวงอื่นได้
วันนี้ (18 ม.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน(อ.ก.พ.) กระทรวงศึกษาธิการဇ ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรก หลังมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 เรื่องการแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบองค์ประกอบของ อ.ก.พ.กระทรวงในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 คน และในส่วนของผู้แทนข้าราชการพลเรือนใน ศธ.จำนวน 5 คน พร้อมพิจารณาเห็นชอบการเกลี่ยอัตรากำลังใน ศธ. เพื่อกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งเป็นศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ระดับ 10 จำนวน 12 อัตรา และรอง ศธภ. ระดับ 9 จำนวน 12 อัตรา โดยยุบรวมตำแหน่งว่างจากอัตราเกษียณอายุราชการ และตำแหน่งว่างที่ไม่มีคนครองอยู่ จากทั้ง 5 องค์กรหลักของ ศธ. รวม100 กว่าอัตรา ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ข้าราชการได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้น
“ศธ.เป็นกระทรวงที่มีปัญหาแปลกกว่ากระทรวงอื่น คือ มีตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง หรือ ระดับ 10 ระดับ 11 เยอะแต่มีตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น หรือ ระดับ 8 และระดับ 9 น้อย ผมกำลังกลุ้มใจว่าจะหาคนมาลงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงไม่ได้ เพราะผู้ตรวจราชการ ศธ. และรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ก็ยังแต่งตั้งไม่ครบ อย่างไรก็ตามผมถือว่าเรื่องนี้แม้จะวิกฤติแต่ก็เป็นโอกาส โดยผมจะทำหลักเกณฑ์การสรรหาผู้บริหารระดับสูงใหม่ ว่า หากกระทรวงขาดระดับ 9 ก็ให้เปิดกว้างพิจารณาระดับ 9 จากกระทรวงอื่น หรือ รับข้ามองค์กรหลักใน ศธ.ได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุป ซึ่ง อ.ก.พ.กระทรวงจะมาพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ใหม่” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการเกลี่ยอัตรากำลังจาก สำนักงานปลัด ศธ. 10 อัตรา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 5 อัตรา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 5 อัตรา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ ) 2 อัตรา และ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) 2 อัตรา แต่ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ต้องมีจำนวนเงินมากพอที่จะใช้บริหารจัดการ จึงมีการยุบตำแหน่งและตัดโอนงบประมาณเพิ่มเติมจาก สพฐ.อีก 119 อัตรา เพื่อกำหนดตำแหน่ง ศธภ.และรอง ศธภ. จำนวน 24 อัตรา นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ดำเนินการสรรหาองค์ประกอบของ อ.ก.พ.กระทรวงให้เต็มคณะ โดยจะสรรหาผู้แทนข้าราชการพลเรือนใน ศธ. ที่ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงก่อน ซึ่งขณะนี้ ศธ.มีระดับ 10 จำนวน 29 คน ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงานปลัด ศธ.ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการไปดำเนินการให้ทั้ง 29 คนเลือกกันเองให้เหลือ 5 คน และจะนัดประชุมเพื่อพิจารณาเสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 3 ด้าน คือด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านการบริหารและการจัดการ และด้านกฎหมาย ซึ่ง คาดว่า อ.ก.พ.กระทรวงจะครบองค์ประกอบภายในเดือน ก.พ.นี้ จากนั้นจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาเพื่อไปดำเนินการสรรหา ศธภ.และรอง ศธภ. รวมทั้งกำหนดกรอบและหลักเกณฑ์การสรรหาต่อไป.
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 18 มกราคม 2560