นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญวันครู “ชาติพัฒนา ด้วยครูดีมีคุณภาพ ศิษย์ซาบซึ้งในพระคุณครู” ย้ำ ครูดีประเทศชาติจะมั่นคง และยั่งยืน
วันนี้ (10 มกราคม 2560) เวลา 09.00 น. ณ บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา นำคณะนักเรียน นักศึกษา พร้อมศิลปินดาราเข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานวันครูโดยคุรุสภา ครั้งที่ 33 ในวันที่ 16 มกราคมของทุกปี พร้อมมอบดอกกล้วยไม้ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำวันครู เพื่อ รณรงค์ร่วมกันรักษาประเพณีไทย และวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานต่อไปในอนาคต
สำหรับงานวันครูในวันที่ 16 มกราคม ประจำปี พ.ศ. 2560 คุรุสภาจะดำเนินการจัดกิจกรรมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช "พระผู้ทรงเป็นบูรพาจารย์แห่งแผ่นดิน" พร้อมกับระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ อีกทั้ง รณรงค์ให้ประชาชนทุกคนส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติครูและพัฒนาวิชาชีพครู อย่างเป็นสามัคคีธรรมด้วยการให้ความร่วมมือและสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษากับประชาชนในการพัฒนาศึกษาของชาติและสังคม ที่สำคัญคือ ร่วมมือกันปกป้องรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีไทย และวัฒนธรรมไทยอันดีงามของชาติเช่นนี้ต่อไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวคำขวัญวันครูว่า “ชาติพัฒนา ด้วยครูดีมีคุณภาพ ศิษย์ซาบซึ้งในพระคุณครู” ครูต้องเป็นบุคลากรที่ดีมีคุณภาพ สั่งสอนให้นักเรียนเป็นคนดีมีคุณภาพ นำความรู้ไปพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง ทั้งนี้ นักเรียนจะต้องตั้งเป้าหมายด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งรัฐบาลจะช่วยเป็นผู้นำร่องให้นักเรียนสามารถก้าวผ่านปัญหาไปให้ได้ เปรียบเสมือนดั่ง “สะพาน” ที่จะช่วยให้นักเรียนก้าวไปสู่เป้าหมายในอนาคต
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับนักเรียนสาธิตละอออุทิศว่า โลกนี้มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนอยู่ทั่วไป ครูจะคอยเป็นผู้ปกครอง และผู้อบรมสั่งสอน เป็นตัวอย่างของคนดี ไม่โกงกินคอรัปชัน อย่างไรก็ตาม นักเรียนจะต้องให้ความเคารพครู ที่สำคัญนักเรียนต้องเคารพพ่อ แม่ และผู้ปกครองที่อยู่ที่บ้านด้วย ควรนึกถึงความเหนื่อยยากในการทำงานหาสิ่งที่ดีให้กับบุตร ไม่ใช้ของฟุ่มเฟือย ไม่นำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด ไม่อยู่กับเทคโนโลยีแต่เพียงอย่างเดียว อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตว่า นักศึกษาควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการประกอบอาชีพอะไร โดยให้คำนึงถึงอาชีพที่ประเทศไทยต้องการในอีก 5 ปีข้างหน้า เน้นหาประสบการณ์จริงมากกว่าการเรียนหนังสือ นักศึกษาที่มีความสามารถควรหาอาชีพเสริมเพื่อเป็นรายได้และประสบการณ์ให้กับตัวเอง ส่วนนักศึกษา ปวส. เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ควรจะทำงานเพื่อหาประสบการณ์ก่อน แล้วจึงค่อยกลับเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี
ตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำกับนักศึกษาชายว่า จะต้องปกป้องและปฏิบัติต่อนักศึกษาหญิง ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษด้วย พร้อมรับมอบดอกกล้วยไม้ และร่วมกันถ่ายภาพหมู่เพื่อเป็นการร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์กิจกรรมรำลึกถึงพระคุณครูต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก เว็บไซต์รัฐบาลไทย วันที่ 10 มกราคม 2560