ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

แผนงาน/โครงการของกระทรวงศึกษาธิการที่จะดำเนินการในปี 2560


ข่าวการศึกษา 5 ม.ค. 2560 เวลา 18:48 น. เปิดอ่าน : 61,146 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

แผนงาน/โครงการของกระทรวงศึกษาธิการที่จะดำเนินการในปี 2560

นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารฝ่ายการเมือง ร่วมประชุมองค์กรหลัก ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันพุธที่ 4 มกราคม 2560 มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับแผนงาน/โครงการของกระทรวงศึกษาธิการที่จะดำเนินการในปีนี้ ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในระยะเวลาที่เหลือตาม Roadmap ของรัฐบาล ก่อนที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง กระทรวงศึกษาธิการจะขับเคลื่อนกิจกรรมและดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) และสานต่อนโยบายทางการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐบาล โดย Focus ในเรื่องที่จะดำเนินการในปี 2560 ดังนี้

การพัฒนาโรงเรียน ICU หรือเป็นโรงเรียนที่อยู่ในสภาพที่แย่ เช่น ครูไม่พอ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ เด็กออกกลางคันจำนวนมาก มีปัญหาด้าน IT เป็นต้น หากไม่ดูแลโรงเรียน ICU เหล่านี้ การศึกษาชาติจะตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ

- โดยในเบื้องต้นได้ทำการคัดเลือกโรงเรียน ICU สังกัด สพฐ. จำนวน 3,000 แห่ง จากจำนวนทั้งสิ้น 10,000 แห่งด้วยความสมัครใจก่อน และ สพฐ. จะพิจารณาคัดเลือกโรงเรียน ICU ในกรณีที่โรงเรียนนั้นมีสภาพที่เข้าข่ายโรงเรียน ICU แต่ไม่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ หรือกรณีที่ไม่อยู่ในข่าย ICU แต่อยากจะเข้าร่วมโครงการ ก็คงมีเตียงที่จะรักษาไม่พอ

- การดำเนินการเช่นนี้จะเปรียบเสมือนกับการมีโรงพยาบาลที่มีเตียง ICU จำนวน 3,000 เตียง โดย สพฐ. จะทำหน้าที่เสมือนเจ้าของโรงพยาบาล และเมื่อได้โรงเรียน ICU แล้ว ผู้อำนวยการสถานศึกษาและครูในโรงเรียนต้องร่วมกันวินิจฉัยปัญหาของโรงเรียน จากนั้นจัดทำแผนการรักษาจากทุกภาคส่วน ซึ่งผู้บริหาร สพฐ. ต้องร่วมกันพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาโรงเรียน ICU ด้วย เมื่อมีแผนแล้วจะระดมแก้ปัญหาภายใน 1 ภาคเรียน หากโรงเรียนใดได้รับการพัฒนาจนพ้นจากโรงเรียน ICU แล้วก็สามารถออกจากเตียง ICU ได้ โดยผู้อำนวยการสถานศึกษาที่สามารถนำโรงเรียนออกจากเตียง ICU ได้ จะได้รับการเลื่อนขั้นตามความดีความชอบอย่างเหมาะสม และถือเป็นเกณฑ์ใหม่ในการพิจารณาความก้าวหน้าในสายงานอีกอันหนึ่งด้วย

- เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐมนตรีได้มีการประชุมทางไกลกับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่ทางการศึกษาทั่วประเทศแล้ว โดยขอให้เขตพื้นที่การศึกษารับฟังเสียงสะท้อนจากชุมชนด้วย

- แนวทางการพัฒนาโรงเรียน ICU นอกจากจะพัฒนาในโรงเรียน สพฐ. ที่มีจำนวน 3,000 แห่ง จะพัฒนาสถานศึกษา ICU สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และโรงเรียนเอกชน ในรูปแบบเดียวกันด้วย

การปฏิรูปครู จะสืบสานพระราชปณิธานด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเรื่องที่เกี่ยวกับครู เช่น

- “ปัญหาปัจจุบันคือ ครูมุ่งเขียนงานวิทยานิพนธ์ เขียนตำราส่งผู้บริหารเพื่อให้ได้ตำแหน่งและเงินเดือนสูงขึ้น แล้วบางทีก็ย้ายไปที่ใหม่ ส่วนครูที่มุ่งการสอนหนังสือกลับไม่ได้อะไรตอบแทน ระบบไม่ยุติธรรม เราต้องเปลี่ยนระเบียบตรงจุดนี้ การสอนหนังสือต้องถือว่าเป็นความดีความชอบ หากคนใดสอนดี ซึ่งส่วนมากคือมีคุณภาพและปริมาณ ต้องมี reward” (5 ก.ค.2555) หรือ

- “ครูบางส่วนเวลาสอนนักเรียนจะสอนไม่หมดแต่เก็บไว้บางส่วน หากนักเรียนต้องการรู้ทั้งหมดวิชา ก็ต้องเสียเงินไปสมัครเรียนพิเศษกับครูท่านนั้น จะเป็นการสอนในโรงเรียนหรือส่วนตัวก็ตาม” (5 ก.ค.2555) เป็นต้น

- โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเร่งดำเนินการในเรื่องการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะของครู แนวทางการอบรมครู รวมทั้งโครงการ "ครูคืนถิ่น" ซึ่งเป็นแผนระยะ 10 ปีที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ. เป็นเจ้าภาพหลัก แต่เมื่อทุกภาคส่วนเห็นว่าจะมีการแยก สกอ. เป็นกระทรวงอุดมศึกษา (หรืออาจจะใช้ชื่ออื่น) จึงต้องเปลี่ยนหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักตามโครงการครูคืนถิ่น โดยให้ สพฐ. และ สอศ. ดูแลรับผิดชอบ

ยุทธศาสตร์การแข่งขันของประเทศด้านการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ฯลฯ โดยขณะนี้กำลังดำเนินการจัดทำแอพพลิเคชั่น Echo V หรือ Echo English Vocational สำหรับให้ผู้เรียนอาชีวศึกษาที่จะจบในปีนี้ได้มีโอกาสใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อการส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษตามหลักสูตรและสาขานั้น ๆ เช่น Hospitality ก็จะบรรจุคำศัพท์และการเรียนรู้ในด้านนี้ อันจะช่วยเตรียมความพร้อมด้านภาษาต่างประเทศให้ผู้เรียนก่อนจบออกไปทำงานจริง

การส่งเสริมคุณธรรม เพื่อต้องการสร้างเด็กให้โตขึ้นมา เกลียดความไม่ซื่อสัตย์ เกลียดการโกง หรือเติบโตขึ้นมากับความไม่โกง โดยให้ยึดหลัก “โตให้กลัว เล็กให้เกลียด” กล่าวคือ ปลูกฝังให้ผู้ใหญ่กลัวความผิดจากการโกง และให้เด็กเกลียดการโกงตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อจะได้ไม่กระทำการสิ่งใดที่เป็นการทุจริต

การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา จะมีการหารือรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องในแต่ละเรื่องต่อไป

การปรับปรุงหลักสูตร ยืนยันว่าหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจะอยู่ในกรอบเดิม เพียงแต่จะปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดหลักสูตรเองได้ ซึ่งกรอบหลักของหลักสูตรจะเน้นไปที่ Active Learning (การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ หรือกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือกระทำและได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป) ให้มากขึ้น ส่วนรายวิชาที่จะเพิ่มเติมในหลักสูตรฉบับปรับปรุงจะมี 3 วิชา คือ ภูมิศาสตร์, Design Technology และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร (ICT) พร้อมทั้งเน้นการส่งเสริมการอ่านของผู้เรียนให้มากขึ้นด้วย

ผลการทดสอบ PISA ซึ่งอันดับของประเทศยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงจะมีการวางแผนงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับผลการทดสอบ PISA ให้มีอันดับที่สูงขึ้นในระยะยาว

นโยบายการอุดมศึกษา ยังคงเน้นการแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นของสภามหาวิทยาลัย และนโยบายการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา (หรืออาจใช้ชื่ออื่น) ซึ่งยืนยันว่าจะเกิดได้ทันภายใน Roadmap ของรัฐบาลนี้

ยุทธศาสตร์ความมั่นคง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เช่น โรงเรียนในเขตพื้นที่สูงจังหวัดชายแดนภาคเหนือ (โรงเรียนชายขอบ) หรือการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ จะลงไปช่วยกำกับติดตามในโรงเรียนเหล่านี้เพื่อยกระดับการศึกษาและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

การจัดการศึกษาแก่เด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่จะประกาศใช้ ได้ระบุตามมาตรา 54 ว่า รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียน จนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรคหนึ่ง เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย" ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการต้องเตรียมความพร้อมดำเนินการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย เช่น การหารือร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน การสำรวจจำนวนและความพร้อมของโรงเรียน สพฐ. หรือหลักเกณฑ์การอนุญาตการออกใบประกอบวิชาชีพสำหรับครูปฐมวัย เป็นต้น

 

ขอบคุณที่มาจาก ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ ที่ 3/2560

 

ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด

฿368 - ฿999

https://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6


แผนงาน/โครงการของกระทรวงศึกษาธิการที่จะดำเนินการในปี 2560แผนงานโครงการของกระทรวงศึกษาธิการที่จะดำเนินการในปี2560

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว 12/2568 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

ว 12/2568 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 6,319 ☕ 7 เม.ย. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การเผยแพร่แบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
การเผยแพร่แบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
เปิดอ่าน 489 ☕ 17 เม.ย. 2568

สลช.เร่งทำหลักสูตรการเอาตัวรอดจาก "อุบัติเหตุ-อุบัติภัย" ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้
สลช.เร่งทำหลักสูตรการเอาตัวรอดจาก "อุบัติเหตุ-อุบัติภัย" ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้
เปิดอ่าน 333 ☕ 16 เม.ย. 2568

สพฐ.จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน (ครั้งที่ 2)
สพฐ.จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน (ครั้งที่ 2)
เปิดอ่าน 1,546 ☕ 10 เม.ย. 2568

แนวทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว HOME SCHOOL
แนวทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว HOME SCHOOL
เปิดอ่าน 730 ☕ 10 เม.ย. 2568

ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง รองปลัด ศธ. และ เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง รองปลัด ศธ. และ เลขาธิการ ก.ค.ศ.
เปิดอ่าน 8,367 ☕ 8 เม.ย. 2568

โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งหมู่ยุวกาชาดและเครือข่ายยุวกาชาด
โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งหมู่ยุวกาชาดและเครือข่ายยุวกาชาด
เปิดอ่าน 645 ☕ 7 เม.ย. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่
เปิดอ่าน 9,646 ครั้ง

ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
เปิดอ่าน 12,091 ครั้ง

ลักษณะสำคัญของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
ลักษณะสำคัญของการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน
เปิดอ่าน 42,779 ครั้ง

ฮือฮา นาซาค้นพบกาแล๊คซี่"ซูเปอร์มัม คอสมิค"แหล่งกำเนิดดวงดาวจำนวนมาก
ฮือฮา นาซาค้นพบกาแล๊คซี่"ซูเปอร์มัม คอสมิค"แหล่งกำเนิดดวงดาวจำนวนมาก
เปิดอ่าน 37,986 ครั้ง

ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
เปิดอ่าน 15,574 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ