ศธ.แถลงข่าวจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 60 ชูแนวคิด “ดินแดนแห่งความสุข ตามรอยศาสตร์ของพระราชา” จัดกิจกรรมให้เด็ก เยาวชน ได้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ พร้อมจัดพิมพ์หนังสือวันเด็ก “ต้นกล้าของพ่อ” 3 แสนเล่ม
วันนี้ (5 ม.ค.)ที่กระทรวงศึกษาธิการ จัดแถลงข่าวจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2560 ภายใต้แนวคิด “ดินแดนแห่งความสุข ตามรอยศาสตร์ของพระราชา”โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติครั้งแรกเมื่อปี 2498 และจัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี สำหรับงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2560 นับเป็นครั้งที่ 62 ภายใต้แนวคิด “ดินแดนแห่งความสุข ตามรอยศาสตร์ของพระราชา” ซึ่งปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันเด็กปีนี้ว่า “เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง” สำหรับการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติในวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. 2560 ที่สนามเสือป่า ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. มีกิจกรรมมากมายให้เด็กและเยาวชนที่มาร่วมงาน ได้สัมผัสประสบการณ์อันจะสร้างความประทับใจจากความสุขที่ไม่รู้ลืมจากแผ่นดินของพ่อ
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ศธ.ได้จัดพิมพ์หนังสือวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2560 นี้ ใช้ชื่อว่า “ต้นกล้าของพ่อ” มีเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความผูกพัน การเล่าประสบการณ์ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สำนึกรักบ้านเกิด ผู้สูงอายุ การประหยัด การมีคุณธรรม ครอบครัว ความเป็นไทย ความซื่อสัตย์ การทำตัวให้มีคุณค่า ความกตัญญู และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยจัดพิมพ์จำนวน 300,000 เล่ม จำหน่ายราคาเล่มละ 15 บาท
“เด็ก เยาวชน ที่เข้าร่วมกิจกรรมวันเด็กที่สนามเสือป่าจะได้เรียนรู้ด้วยตนเองผ่านปฏิบัติ ซึ่งกิจกรรมที่นำมาจัดนั้นล้วนน้อมนำแนวพระราชดำริและคำสอนของพ่อหลวงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิต ซึ่งกิจกรรมต่างๆ จะพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. กล่าวเสริมว่า กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ปี 2560 ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก โดยกิจกรรมแรก คือ การนำเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 779คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโล่รางวัลและรับโอวาทจาก นายกรัฐมนตรี ในวันที่11 ม.ค. 2560 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ส่วนกิจกรรมที่ 2 การฉลองวันเด็กแห่งชาติ วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2560 ระหว่างเวลา 08.00 - 16.30 น. ที่สนามเสือป่า กรุงเทพฯ โดยมี นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน เวลา 08.30 น.
ทั้งนี้ ภายในงานมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมกันเปิดบูธกว่า20 บูธ แบ่งเป็น 6 สถานี ได้แก่ สถานีที่ 1 เวทีกลาง (Main Stage) สถานีที่ 2สถานีพระอัจฉริยภาพ (King Bhumibol Adulyadej’s Talents) เป็นโซนกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชน ได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 อาทิ พระอัจฉริยภาพด้านกีฬา พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี พระอัจฉริยภาพด้านงานศิลปะวาดภาพ / ถ่ายภาพ พระอัจฉริยภาพด้านภาษา และ พระอัจฉริยภาพด้านวรรณกรรม
สถานีที่ 3สถานีพอเพียง (Philosophy of Sufficiency Economy) เป็นโซนกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้เข้าใจรูปแบบและความหมายของความพอเพียง ที่แสดงถึง ความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชน จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ อาทินิทรรศการแปลงนาเกษตรทฤษฎีใหม่กิจกรรมจัดทำสมุดบันทึกทำมือจากกระดาษรีไซเคิลการเพาะชำต้นหญ้าแฝก และกิจกรรมงานฝีมือ
สถานีที่ 4 สถานีนวัตกรรม (Innovation) เป็นโซนกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชน ได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ 9ในการเป็นนักประดิษฐ์ คิดค้น และประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ มากมาย อาทิ เรือใบ กังหันน้ำชัยพัฒนา ฯลฯ จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ผ่านสถานีกิจกรรมย่อยต่างๆ อาทิ กิจกรรมเยาวชนนักประดิษฐ์ ผ่านอุปกรณ์เครื่องต่อกีโก้ กิจกรรมห้องทดลอง (ทดลองทำน้ำมันไบโอดีเซล) และ กิจกรรมการเล่นเกมตอบปัญหา เป็นต้น
สถานีที่ 5 สถานีธรรมมะจากพระราชา (King Bhumibol Adulyadej’s Dhamma) เป็นโซนกิจกรรมที่มุ่งเน้นการให้ความรู้ในเรื่องของธรรมะของพระราชา และจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ผ่านสถานีกิจกรรมย่อยต่างๆ อาทิ การฝึกจิตโดย พระอาจารย์ ธัมมทีโป ภิกขุ กิจกรรมฝึกสมาธิจากงานฝีมือกิจกรรมรับฟังธรรมจากพระราชา จากพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชิคาโก สหรัฐอเมริกากิจกรรมเล่นเกมตอบปัญหา
สถานีที่ 6 สถานีอิงลิช ฟอร์ ฟัน (English for Fun) เป็นโซนกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชน เพิ่มพูนความรู้จากการศึกษาเล่าเรียน ทั้งจากในตำราและในโรงเรียน หรือการเรียนรู้การใช้ชีวิต และความจำเป็นของภาษาอังกฤษ ในปัจจุบัน โดยการจัดทำบอร์ดนิทรรศการให้ความรู้ “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” พร้อมจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ผ่านสถานีกิจกรรมย่อยต่างๆ อาทิเกม Crossword ภาษาอังกฤษกิจกรรมตอบปัญหาและเล่นเกมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษกิจกรรมสนทนากับเจ้าของภาษาโดยครูสอนภาษาอังกฤษชื่อดัง แอนดรูว์ บิ๊ก พร้อมกิจกรรมเวทีตำรวจกิจกรรมจากลูกเสือ เป็นต้น
ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวต่อว่า ภายในงานมีไฮไลท์ ได้แก่ นายกรัฐมนตรีแจกของขวัญให้เด็กๆ เช่น ตุ๊กตา ของเล่น สมุดหนังสือ ขนม เป็นต้น การเขียนไปรษณียบัตร “คำสัญญา...ทำดีถวายในหลวงรัชกาลที่ 9” โดยเด็ก เยาวชน เขียนชื่อ-ที่อยู่ ของตัวเอง เพื่อส่งกลับไปให้ตัวเอง ส่วนเวทีกลาง จะมีกิจกรรม อย่างการสัมภาษณ์พูดคุยกับศิลปินดาราการเล่นเกมตอบคำถามการแสดงต่างๆ เช่น ร้องเพลง “พระราชาในนิทาน”การมอบของขวัญของรางวัลพร้อมทั้งการฉายภาพยนตร์ แอนิเมชั่นเรื่องพระมหาชนก เป็นต้น
ด้าน พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลดุสิต กล่าวว่า วันเด็กแห่ชาติ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ 300 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่บริเวณจัดงาน รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาร่วมงาน อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือกับพ่อแม่ผู้ปกครองให้ดูแลเด็ก เยาวชนอย่างใกล้ชิด และจัดทำบัตร เขียนชื่อผู้ปกครอง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงของเด็ก เพื่อสะดวกในการติดต่อกรณีเด็กผลัดหลง ถ้าหากมีเหตุด่วนเหตุร้าย ติดต่อสถานีตำรวจนครบาลดุสิต โทร.02-241-5043-4
ขอบคุณที่มาจาก MGR Online วันที่ 5 มกราคม 2559