ทปสท.ยื่นหนังสือต่อประธานกรรมาธิการการศึกษาฯ สนช. ช่วยจี้เสมา 1 จัดระเบียบบริหารสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ห้ามคนเกษียณนั่งตำแหน่งอธิการบดีและผู้บริหารมหาวิทยาลัย
วันนี้( 29 ธ.ค.) ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ ประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) และคณะได้เข้าพบและยื่นหนังสือต่อ ดร.ตวง อันทะไชย ประธานกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อขอให้พิจารณากำหนดบรรทัดฐานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะการดำรงตำแหน่งของอธิการบดีและผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเมื่อวันที่ 7ธ.ค.ที่ผ่านมาศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำพิพากษาเห็นพ้องกับศาลปกครองนครราชสีมา กรณีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานจากผู้เกษียณอายุราชการ ว่าการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิการต้องแต่งตั้งจากข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดศึกษาหรือพนักงานในสถาบันอุดมศึกษานั้น ๆ
ผศ.ดร.รัฐกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ทาง ทปสท.จึงเสนอให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณานำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ตามมาตรา 44 ข้อ 2 กำหนดในกรณีที่ปรากฏว่าการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งนายกสภาสถาบันอุดมศึกษา กรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา หรืออธิการบดี ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ให้รมว.ศึกษาธิการ มีอำนาจยับยั้งการแต่งตั้งหรือการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว กับการดำรงตำแหน่งอธิการบดี และผู้บริหารของสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นส่วนราชการจากผู้เกษียณอายุราชการ
ผศ.ดร.รัฐกรณ์ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลการสำรวจของ ทปสท. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2559 พบว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน รวม 48 แห่ง ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นส่วนราชการ มีการแต่งตั้งผู้บริหารจากผู้เกษียณอายุราชการ เป็นอธิการบดี 33 คน รองอธิการบดี 47 คน และคณบดี/ผู้อำนวยการศูนย์/สำนัก จำนวน 26 คน นอกจากนี้ยังมีการกำหนดอัตราเงินเดือนที่สูงกว่าระเบียบราชการ ดังนี้ อธิการบดีตั้งแต่50,000-250,000 บาท เฉลี่ย 120,000 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมเงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มค่าตอบแทนอื่น ค่าน้ำมันรถ และเงินโบนัส เมื่อรวมกันอาจจะมากกว่าเงินเดือน ที่สำคัญเงินเหล่านี้ล้วนเป็นเงินรายได้ของแต่ละสถาบันที่มาจากเงินค่าบำรุงการศึกษาของนักศึกษา ที่ควรนำไปใช้พัฒนานักศึกษาโดยตรงอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อให้เกิดคุณภาพของการจัดการศึกษา นอกจากนี้การแต่งตั้งผู้บริหารที่เกษียณอายุราชการยังถือเป็นการทำลายระบบราชการ ทำลายขวัญกำลังใจ
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559