"ม.หอการค้า" เผย 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง-ร่วงปี 60 พบบริการทางการแพทย์-ความงามขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง 6 ปีซ้อน "ฟอกย้อม- หัตถกรรม-หนังสือ" แย่
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงามยังครองอันดับ 1 ธุรกิจเด่นปี 2560 จากผลการวิจัยทางธุรกิจโดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ โดยอยู่ในอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 และคาดว่าจะยังโดดเด่นต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3-5 ปีข้างหน้า ส่วนอันดับ 2 คือธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว และธุรกิจคอมเมิร์ซ อยู่ในอันดับที่ 3
ส่วนอันดับ 4 มี 2 กลุ่มธุรกิจคือ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อันดับ 5 ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง อันดับ 6 ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ อันดับ 7 ธุรกิจบริการทางการเงิน ด้านออนไลน์ อันดับ 8 มีด้วยกัน 3 กลุ่มธุรกิจคือ ธุรกิจโมเดิร์น เทรด ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต และธุรกิจออแกไนท์ อันดับ 9 ธุรกิจซ่อมและจำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ 10 มี 2 กลุ่มคือธุรกิจการศึกษา เช่นโรงเรียนกวดวิชา สถาบันด้านไอที และธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี
ขณะที่ธุรกิจดาวร่วงใน 2560 ได้แก่ ธุรกิจฟอกย้อม, ธุรกิจหัตถกรรม, ธุรกิจนิตยสาร หนังสือและหนังสือพิมพ์, ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ, ร้านเช่าวิดีโอ ซีดี, สิ่งทอผ้าผืน, ธุรกิจจัดทำโปสเตอร์, ธุรกิจโรงไม้, ธุรกิจตัดและซ่อมรองเท้า, ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร
สำหรับในปี 2560 ภาคธุรกิจจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะประกอบไปด้วย 4 ป. คือ
1.ปรับโครงสร้าง ที่หลายประเทศจะเน้นการสร้างความเข้มแข็งภายใน และเน้นการค้าภายในกลุ่มของตัวเอง
2.ปรับสมดุล ปี 2560 สินค้าที่เคยโอเวอร์ซัพพายจะเริ่มลดลง ราคาน้ำมันจะเริ่มกลับมาสู่สมดุลและยืนในระดับ 55-60 ดอลลาร์/บาเรล คอนโดมิเนียมในบางพื้นที่ที่โอเวอร์ซัพพายจะเริ่มทรงตัว
3.ปรับเปลี่ยน คือ เศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะเริ่มมีมุมมองบวกมากขึ้น และภัยก่อการร้ายที่มีอยู่ในหลายประเทศจะควบคุมได้ เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวได้อย่าใชัดเจน การเปลี่ยนแปลงจากอนาลอคสู่ดิจิตอล มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการจับจ่ายใช้สอยมาสู่ระบบเทคโนโลยี
4.ปรับปรุง คือ โลกจะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเป็นจำนวนมาก เพื่อดูแลผลผลิตในประเทศ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ปีหน้าจะมีกฎหมายผ่านเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.หลายฉบับ รวมถึงมีการปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่เหมาะสม
ขอบคุณที่มาจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 22 ธันวาคม 2559