นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวในการมอบนโยบายให้กับข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ว่า กระทรวงศึกษาธิการในยุคนี้จะเน้นเรื่องความโปร่งใส และ Anti-Corruption ซึ่งจะเป็นยุคที่กระทรวงศึกษาธิการมีความโปร่งใสที่สุดในประวัติศาสตร์ จะไม่มีใต้โต๊ะ หลังโต๊ะ หลังบ้าน ตามน้ำใด ๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่าไม่มีการนำชื่อหรือทีมงานทั้งสามท่านไปแอบอ้างเพื่อขอรับผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น
สิ่งที่สำคัญอีกประการ คือ "กระทรวงศึกษาธิการต้องการสร้างเด็กให้โตขึ้นมา เกลียดการโกง หรือเติบโตขึ้นมากับความไม่โกง ด้วยการปลูกฝังการไม่โกงไว้ในบรรยากาศ ระบบ และการสนทนา เพราะการไม่โกงมีวิธีการเดียว ก็คือ ให้เกลียดการโกง และจะได้ไม่ทำ"
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมพัฒนาโรงเรียน ICU ทั่วประเทศ ตามแนวทาง School Improvement Project โดย ในระยะเวลาการทำงานที่เหลือตาม Roadmap ของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการจะเน้นการทำงานที่เป็น "รูปธรรม" อย่างแท้จริง โดยโครงการที่สำคัญคือ จะให้ สพฐ.คัดเลือกโรงเรียนที่มีสภาพแย่ที่สุดหรือตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ที่เป็น ICU ในทุกภูมิภาคและทุกเขตพื้นที่การศึกษา โดยจะต้องไม่ใช่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนสานพลังประชารัฐกว่า 7,000 แห่ง เพราะโรงเรียนเหล่านั้นได้รับการสนับสนุนแล้ว ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้โรงเรียน ICU เหล่านี้ได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วนในด้านต่าง ๆ ตามที่โรงเรียนเหล่านั้นขาดแคลน ซึ่งคาดว่าภายใน 5 ปี โรงเรียน ICU เหล่านี้จะได้รับการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน อีกทั้งนโยบายนี้จะทำให้รู้ว่าโรงเรียน ICU นั้นตั้งอยู่ในจังหวัดอะไรบ้าง เพื่อที่ กศจ. จะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาได้อย่างตรงจุด
ด้านการสานต่อนโยบายนั้น รมว.ศธ.กล่าวว่า ไม่ทิ้งนโยบายเดิม แต่จะปรับปรุงให้ดีและทันสมัยมากขึ้น โดยยืนยันว่ากระทรวงศึกษาธิการมีแนวทางที่จะสานต่อนโยบายเดิมที่ดำเนินการไว้ดีอยู่แล้ว อาทิ นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ แต่จะปรับปรุงให้มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือแนวทางการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งจะจัดทำแผนงานและโครงการต่าง ๆ ให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วย
นอกจากนี้ จะทำให้กระทรวงศึกษาธิการมีความทันสมัยกับสถานการณ์ปัจจุบัน หรือ Modernise MOE ภายใต้คำขวัญที่ว่า "Work hard, be nice" อีกทั้งจะไม่ใช้ One size fits all หรือการตัดเสื้อขนาดเดียวแล้วนำมาใช้กับทุกคน เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีบริบทที่แตกต่างกัน ดังนั้น แนวทางการปฏิบัติงานต่าง ๆ ของแต่ละแห่ง ย่อมมีความแตกต่างกันด้วย
ส่วนประเด็นของ ร่างรัฐธรรมนูญฯ ฉบับลงประชามติ พ.ศ.2559 ที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา นั้น นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการดูแลกองทุนตามร่างรัฐธรรมนูญฯ ฉบับดังกล่าว ตามมาตรา 54 วรรคหก และดำเนินการปฏิรูปการศึกษาในด้านต่าง ๆ ให้เกิดผล ตามมาตรา 258 ต่อไป โดยสาระของร่างรัฐธรรมนูญฯ ฉบับลงประชามติ พ.ศ.2559 ที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา นั้นมีประเด็น ดังนี้
นอกจากนี้ จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาต่าง ๆ ให้มากขึ้น โดยอาจไม่แจ้งล่วงหน้า และหน่วยงานหรือสถานศึกษาไม่จำเป็นต้องจัดทำป้ายต้อนรับ หรือให้นักเรียนและครูทิ้งห้องเรียนเพื่อมาเข้าแถวต้อนรับ โดยย้ำว่ากระทรวงศึกษาธิการจะมีแนวทางดำเนินงานที่จะทำให้เด็กอยากไปโรงเรียน อยากเรียนหนังสือ และครูอยากจะสอน รวมถึงการมีห้องสมุดที่ดี และมีตำราเรียนที่มาตรฐานอีกด้วย
ขอบคุณที่มาภาพ/เนื้อหา และอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ 20 ธันวาคม 2559