“ระดมทุนเชิงบวก” ผ่านโซเชียล เพื่อเด็กและเยาวชน ฐานกำลังสำคัญของประเทศ เครือข่าย รร.- CSR “สสค.-เทใจดอทคอม-ทรู” นำร่อง 6นวัตกรรม ส่งเสริมแนวคิดทางเลือกสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้ช่วยผู้จัดการด้านวิจัยและนโยบาย สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) กล่าวถึงความก้าวหน้าในความร่วม
มือของ สสค.และเทใจดอทคอม หลังจากร่วมกันเปิดพื้นที่กลางที่
จะช่วยเหลือโรงเรียนในด้านต่างๆ ผ่าน
http://taejai.com/projects/qlf ที่จะเชื่อมคนใจดีทุกคน องค์กรพัฒนาสังคม และภาคเอกชน ด้วยการสร้างเครือข่ายความรับผิ
ดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) ให้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนโคร
งการต่างๆ ของเครือข่ายโรงเรียนที่สสค.ทำง
านร่วมให้เกิดการต่อยอด โดย 6 โครงการแรก ทางสสค.ได้ร่วมกันพัฒนาโครงการร่
วมกับโรงเรียนนำร่องที่เข้าหลั
กเกณฑ์ คือ 1) มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น ความขาดแคลนด้านโครงสร้างและควา
มจำเป็นพื้นฐาน 2) โครงการที่มีนวัตกรรมควรค่าต่อก
ารต่อยอดและขยายผล 3) โครงการที่สร้างให้เกิดความยั่ง
ยืน และ 4) มีหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบชัดเ
จนพร้อมรายงานผลการทำงาน
“สำหรับความร่วมมือนี้ จะเป็นโครงการระยะยาวที่สสค.ทำร่วมกับเทใจดอทคอม โดยทางสสค.จะทำหน้าที่เชื่อมเครื
อข่ายภาคการศึกษาเพื่อคัดกรองโร
งเรียนตามหลักเกณฑ์ในเบื้องต้น และร่วมกับเทใจดอทคอมในการพัฒนา
โครงการของโรงเรียนให้เข้มแข็
งพร้อมที่จะระดมทุน อีกทั้งเรายังร่วมกันติดตามความ
คืบหน้าโครงการเพื่อประชาสัมพั
นธ์เป็นระยะๆ รวมถึงนำโมเดลที่สำเร็จไปต่อยอด
และขยายผลต่อไป 6 โครงการนี้ จึงเป็นเพียงตัวอย่างนำร่องที่แ
สดงให้เห็นว่า การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน และ Social Enterprise เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภา
พการเรียนรู้ในชั้นเรียนได้อย่
างมาก ดังนั้น หน่วยจัดการศึกษาไม่ว่าจะอยู่ใน
สังกัดใด หน่วยงานใด หรือบุคคลใด ที่สนใจส่งโครงการกับเรา สามารถส่งได้ที่
QLF4Taejai@QLF.or.th”
นางสิรินาท ต่อวิริยะเลิศชัย ที่ปรึกษาเว็บไซต์เทใจ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของความร่มมือในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวจังหวัดเชียงราย เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีโรงเรียน 3 แห่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ทำให้ รร. เสียหายต้องไปจัดการเรียนการสอนชั่วคราวที่วัด เว็บไซต์เทใจจึงเข้ามามีส่วนร่วมกับทาง สสค.เพื่อระดมทุนเร่งด่วนทั้งอาคารสถานที่ ห้องน้ำ อุปกรณ์การเรียนการสอน ดังนั้น จึงมีหลายพื้นที่ที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินต้องการช่องทางเข้ามาช่วยเหลือ โดยสสค.เป็นองค์กรทำงานด้านการศึกษา ซึ่งให้การสนับสนุนวัตกรรมทางด้านการศึกษา ส่วนทางเทใจดอทคอมต้องการสนับสนุนให้ รร.นำนวัตกรรมทางการศึกษาไปต่อยอดขยายผล เพราะเชื่อว่าหากเครื่องมือเหล่านี้ถูกส่งไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ จะเกิดความยั่งยืน แก้ไขปัญหาได้ถูกจุดมากขึ้น
“วันนี้ เป็นการทำงานที่ได้เพื่อนเพิ่ม สสค.เชื่อม รร.ที่ขาดแคลน มีนวัตกรรมที่สามารถนำมาแลกเปลี่ยนขยายผล ส่วนเทใจดอทคอมทำหน้าที่เชื่อมโลกออนไลน์ โดยเปิดโอกาสให้ รร.ส่งโครงการเข้ามาตามเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อเกิดการระดมทุนเชิงบวกสนับสนุนเรื่องการศึกษาที่หล่อหลอมให้คนออกมาพัฒนาสังคม ดังนั้น ถ้าคนไทยมาร่วมกันปูพื้นฐานให้กับประเทศ โดยเด็กเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดแก้ไขปัญหาการศึกษาในระยะยาว ดังกรณีตัวอย่าง 1 ใน 6 โครงการที่เสนอเข้ามาร่วม เช่น โครงการมัลติพอยท์สื่อการสอนที่มาลบคำว่า “ขาดแคลน” โครงการนี้เกิดจากความไม่พร้อมขาดแคลนคอมพิวเตอร์ เพราะโดยทั่วไป คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องใช้ได้ 1 คน แต่สำหรับโรงเรียนที่ขาดแคลนมีคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว แต่ครูใช้ความสามารถส่วนบุคคลร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ พัฒนาให้คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องสามารถใช้ได้ถึง 40 คน สามารถลบข้อจำกัดของคำว่าขาดแคลนได้ ดังนั้น หากมีนวัตกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นใน รร. หรือการศึกษาทางไกลที่ทำให้นักเรียนเข้าถึง ฉะนั้น รร.ไหนมีครูสอนสนุก นวัตกรรมดีๆ ก็สามารถออนไลน์แลกเปลี่ยนการจัดการศึกษาในรูปแบบต่างๆ ได้” นางสิรินาทกล่าว
นางสิรินาท กล่าวต่อไปว่า การใช้โซเชียลอย่างเป็นประโยชน์ก็จะเกิดประโยชน์กับทุกคน เมื่อเด็กมีไอเดียอยากทำ อยากรู้ อยากเปิดโลก แต่ขาดการสนับสนุน ขาดที่ปรึกษา ร หากเราสามารถใช้โซเชียลเป็นเครื่องมือสนับสนุน การแก้ไขปัญหาก็จะเร็วขึ้และตรงจุดมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นเรามองเป้าหมายโปรเจคนี้เป็นโปรเจคระยะยาวที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน
นางสาวชลธิชา ชิดเชื้อวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดหน่วยงาน ทรูปลูกปัญญามีเดีย ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สิ่งสำคัญประการแรกสังคมต้องทำความเข้าใจร่วมกันก่อนว่า การทำ CSR ในแต่ละองค์กรนั้นทำไปเพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายใด หลังจากนั้นต้องเรียนรู้และสำรวจให้ชัดเจนว่าผู้รับต้องการได้รับการสนุบสนันในด้านใดบ้าง เช่น การที่ทรูมาทำเรื่องการศึกษา เพราะเล็งเห็นว่า ปัญหาการศึกษาเป็นต้นทางของการพัฒนาทุนมนุษย์ที่สำคัญ หากแก้ปัญหาการศึกษาได้สังคมก็จะดีขึ้น ดังนั้น โครงการทรูปลูกปัญญาจึงเน้นเรื่องการศึกษา คุณธรรม จริยธรรม พร้อมให้เครื่องมือ เพื่อไปต่อยอดพัฒนาถึงแหล่งความรู้ต่างๆ และไปปรับใช้เป็นรายกรณี ให้ตรงตามแต่ละปัญหา และความต้องการของผู้เรียน ผู้สอน และโรงเรียนในแต่ละระดับ แต่ละพื้นที่
“ที่ผ่านมาเรายังอาจจะยังเข้าไม่ถึงโรงเรียนที่ด้อยโอกาส ขาดความพร้อม ซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นใคร ขาดแคลนอะไร ดังนั้นการที่ สสค.ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาการ มีเครือข่ายทางการศึกษา และเทใจดอทคอมเว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายโซเชียลมีเดีย และทรู มาร่วมมือร่วมใจกันในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นสื่อกลางสนับสนุนให้ภาคเอกชนและ รร.ที่ต้องการการสนับสนุนช่วยเหลือพัฒนาได้มาเจอกัน เป็นการช่วยกันแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดตามแนวทางที่ รร.ต้องการ ซึ่งเป็นปัญหาที่คนนอกอาจจะมองไม่เห็น” น.ส.ชลธิชากล่าว