"ดาว์พงษ์"ทิ้งทวนชี้"ผอ.รร."สำคัญมาก ระบุสามารถขับเคลื่อนโรงเรียนทิศทางที่ดีได้/ฝากสพฐ.ทบทวนกก.อ.ก.ค.ศ.ก่อนใช้ม.44
"บิ๊กหนุ่ย" เชื่อ ผอ.โรงเรียนเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก หากได้คนดีและเก่งก็สามารถจัดการปัญหาและขับเคลื่อนการบริหารโรงเรียนให้ไปในทิศทางที่ดีได้ พร้อมกับฝาก สพฐ.ทบทวนกรรมการนั่ง อ.ก.ค.ศ.สพฐ. เผยต้องทำให้ชัดเจน ก่อนเสนอใช้ ม.44 คาดเรื่องการตั้ง อ.ก.พ.ศธ.และผู้ตรวจราชการ ศธ.เพิ่ม พิจารณา 7 ธ.ค.นี้ ด้านยอดผู้สมัคร ผอ.รร.ลดฮวบ หลัง ศธ.ออกเกณฑ์ใหม่
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (อดีต รมว.ศธ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานผลการจัดสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัด สพฐ.ที่ผ่านมา พบว่าสนามสอบทุกจุดเรียบร้อยดี และจะประกาศผลการคัดเลือกในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ สพฐ.ก็จะได้ผู้อำนวยการตามเกณฑ์ใหม่ที่ ก.ค.ศ.กำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้หารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมรับ เพราะผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก ถ้าได้ผู้อำนวยการดีและเก่งก็สามารถจัดการปัญหาและขับเคลื่อนการบริหารโรงเรียนให้ไปในทิศทางที่ดีได้ ทั้งนี้ ในส่วนของเกณฑ์รองผู้อำนวยการยังไม่ได้มีการหารือในรายละเอียด แต่คาดว่า กศจ.จะมีส่วนในการพิจารณาตามความเหมาะสมในจังหวัดของตนเองในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ ตนยังได้มอบให้ สพฐ.ให้กลับไปทบทวนผู้ที่จะเข้ามาเป็นกรรมการในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อ.ก.ค.ศ.สพฐ.) ด้วย เนื่องจากตนยังไม่ได้เสนอเรื่อง เพื่อที่จะขอใช้อำนาจมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ดังนั้น สพฐ.จะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยว่าจะวางใครมาเป็นกรรมการบ้าง ทำให้เห็นภาพชัดเจนก่อนที่จะมีการเสนอ ไม่ใช่ออกคำสั่งมาแล้วมานั่งปวดหัวอยู่ว่าใครจะมาเป็นกรรมการ ส่วนเรื่องการยุบรวมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวง ที่มีอยู่ใน 5 องค์กรหลักให้เหลือเพียงคณะเดียว และเรื่องการแต่งตั้งผู้ตรวจราชการ ศธ.เพิ่มให้ครบตามศึกษาธิการภาค 18 ภาคนั้น จะมีการประชุมในวันที่ 7 ธันวาคมนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการครั้งนี้พบว่า มีผู้สมัครจำนวนน้อยลงจากการสอบที่ผ่านมาจำนวนมาก พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า อาจจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละบุคคล เพราะในอนาคตหลักเกณฑ์เรื่องการขอย้ายของข้าราชการครูจะมีการปรับจากเดิมที่ 12 เดือน เป็น 24 เดือน ซึ่งจะทำให้มีคนเข้าเกณฑ์จำนวนลดลง และได้คนที่เหมาะสมมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังต้องดูในเรื่องการขอย้ายกรณีพิเศษด้วย จะต้องไม่เปิดช่องให้มีการย้ายกันอย่างอุตลุด.
ขอบคุณที่มาจาก ไทยโพสต์ วันที่ 7 ธันวาคม 2559